เมษายน 23, 2024, 07:54:43 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใจคือที่รองรับพระพุทธบารมี (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)  (อ่าน 4639 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: กันยายน 08, 2010, 03:27:11 PM »

Permalink: ใจคือที่รองรับพระพุทธบารมี (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
ใจคือที่รองรับพระพุทธบารมี (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) 
 

ใจที่สกปรกจนเกินไป ใจมีกิเลสโลภโกรธหลงท่วมท้น จนไม่มีที่สำหรับรองรับพระพุทธบารมี มีที่เพียงน้อยนิดสำหรับความเคารพเทิดทูนสมเด็จพระบรมศาสดา

ปฏิเสธคำทรงสอนยิ่งกว่าเป็นสิ่งไร้ค่า ได้อ่านก็สักแต่ว่าได้อ่าน ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ไม่ให้ความสำคัญเพียงพอที่จะทำให้รู้สึกว่าคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดามีความสำคัญให้สิริมงคลสุงสุดแก่ชีวิต คำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาที่ให้ผลยิ่งใหญ่เหนือคำสอนใดๆ ปรากฏให้เห็นอยู่แล้ว

การเกิดที่ทำให้ต้องพบความทุกข์นานาประการของความแก่ความเจ็บความตาย คำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา ก็ทำให้ท่านผู้ปฏิบัติตามพ้นการเกิดได้ เป็นที่เชื่อกันอยู่ ว่าท่านทั้งหลายนั้นคือที่รู้จักกันว่าท่านคือ พระอรหันต์

ที่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาจำนวนไม่น้อยเคารพเทิดทูนท่าน จะใช้คำว่าตื่นเต้นภูมิใจที่จะได้เข้าไปกราบไหว้ฟังคำสนทนาปราศรัยของท่าน ก็ไม่ผิด พวกเราทุกคนเมื่อมีข่าวว่าท่านพระอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็จะดีใจจะภูมิใจจะมั่นใจในสิริมงคลที่จะได้รับจากการได้เข้าไปเป็นศิษย์สนทนาปราศรัยกับท่าน

ตื่นเต้นภูมิใจเป็นที่สุดที่ท่านสอน ที่ท่านพูดท่านคุยด้วย ความรู้สึกนี้เป็นมงคล และจะเป็นมงคลสูงสุดแก่ชีวิต แม้จะคิดได้ด้วย ถึงพระผู้ทรงเป็นสมเด็จพระบรมครูผู้ทรงสอนให้เกิดความเป็นพระอรหันต์ ไม่มีคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมครู ไม่มีผู้ปฏิบัติตามคำทรงสอน พระอริยะทั้ง ๔ ระดับก็ไม่เกิด ทั้งพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์

ทุกองค์พระอริยสงฆ์ดังกล่าว
ท่านเคารพเชื่อมั่นในสมเด็จพระบรมศาสดา
ทรงสอนทางดำเนินไปสู่ความพ้นทุกข์ไว้อย่างไร
พระสงฆ์ที่ยังเป็นเพียงกัลยาณปุถุชน หรือเป็นเพียงสงฆ์สามัญ
มิใช่อริยสงฆ์แต่ด้วยการมุ่งมั่นปฏิบัติ
ตามพระธรรมคำทรงสอนในสมเด็จพระบรมศาสดา
ก็ดำเนินไปตามทางที่ทรงแสดง

ด้วยใจที่มั่นในความทรงเป็นสมเด็จพระบรมศาสดา ที่เหนือมนุษย์เหนือพรหมเทพมากมี และก็ไม่ปรากฏว่าความเทิดทูนยิ่งชีวิตจิตใจ ที่ท่านพากันมีต่อละลองพระพุทธบาทไม่ทำให้เกิดความผิดหวังแก่ท่านผู้ใดแม้แต่น้อย

อำนาจของใจที่ทำให้เกิดอริยบุคคลและพระอริยสงฆ์ โดยเสด็จสมเด็จพระบรมศาสดามาตั้งแต่ยังอยุ่ในสมัยที่สมเด็จพระบรมศาสดายังทรงดำรงพระชนมายุสังขารอยู่

มาจนถึงยุคสมัยนี้ที่เสด็จขันธปรินิพพานแล้วถึง ๒๕๕๐ ปี และจะต่อไปอีกนานเท่าไรก็ได้ ที่อำนาจของใจที่มีศรัทธามั่นในคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา จะยังก่อให้เกิดอริยบุคคลและพระอริยสงฆ์ได้อีก

อำนาจใจเป็นใหญ่ได้ทุกยุคทุกสมัย
แต่ความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของอำนาจใจ
ต้องสำคัญที่ความดีความไม่ดี

ใจจะไม่มีอำนาจตามลำพัง
อำนาจความดีจะทำให้ใจดี
และใจที่ดีจะให้เกิดผลสำเร็จที่ดี

อำนาจความไม่ดีจะทำให้ใจไม่ดี
และใจที่ไม่ดีจะให้เกิดผลสำเร็จที่ไม่ดี
ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจเป็นไปเช่นนี้ ไม่มีเป็นไปอย่างอื่น

: แสงส่องใจ วันอาสาฬหบูชา ๒๕๕๐
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


ขอบคุณธรรมจักรดอทคอม
 
 
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ ธันวาคม 29, 2023, 04:53:14 AM