เมษายน 20, 2024, 05:56:26 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตคืออะไร ชีวิตเกิดจากอะไร ชีวิตจะสิ้นสุดลงอย่า  (อ่าน 12393 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2012, 09:42:32 AM »

Permalink: ชีวิตคืออะไร ชีวิตเกิดจากอะไร ชีวิตจะสิ้นสุดลงอย่า
ชีวิตคืออะไร ชีวิตเกิดจากอะไร ชีวิตจะสิ้นสุดลงอย่างไร?

--------------------------------------------------------------------------------

ชีวิตคืออะไร ชีวิตเกิดจากอะไร ชีวิตจะสิ้นสุดลงอย่างไร?
และเมื่อใดนั้นเป็นปัญหาที่เรามักจะขบคิดอยู่เสมอ
ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่อยู่ห่างไกล..
ชีวิตคือนามธรรมและรูปธรรมในขณะนี้ ขณะที่กำลังเห็นอยู่นี้มิใช่ชีวิตหรือ? โลภะ โทสะ และโมหะ ที่เกิดเนื่องมาจากสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่ชีวิตหรือ?
การคิดนึกถึงสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และสัมผัส
มิใช่ชีวิตหรือ?
เรามี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เรารู้อารมณ์ทางทวารทั้ง ๖ นี้ กิเลสย่อมเกิดเนื่องมาจากอารมณ์เหล่านั้น

นี่คือชีวิตในขณะนี้ แต่ก็ได้มีชีวิตมาแล้วในอดีต
และจะมีชีวิตต่อไปในอนาคตด้วย
นอกจากว่าจะหมดกิเลสแล้วเท่านั้น


ชีวิตเกิดขึ้นได้อย่างไร มีเบื้องต้นของภพชาติมากมายเหล่านี้
หรือไม่ เราย้อนกลับไปหาอดีตไม่ได้ ถ้าเราใคร่จะรู้ว่าชาติก่อนๆ ของเรานั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เราก็ควรจะรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยให้เกิดภพชาติในขณะนี้ ขณะที่กำลังเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัส และคิดนึกอยู่นี้มีอวิชชาบ้างไหม ขณะนี้มีความยึดมั่นในนามธรรมและรูปธรรมบ้างไหม ตราบใดที่ยังยึดมั่นในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สัมผัส) และธรรมารมณ์ (อารมณ์ที่รู้ทางใจ) อยู่ก็มีปัจจัยให้เกิดภพชาติต่อไปไม่สิ้นสุด
ฉะนั้น ภพ ชาติ จึงมีอวิชชาและตัณหาเป็นปัจจัยให้เกิดขึ้น
*ในมัชฌิมนิกาย สฬายตนวรรค สฬายตนวิภังคสูตร*
มีข้อความว่า สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน เขตพระนครสาวัตถี พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเมื่อไม่รู้ไม่เห็นจักษุตามความเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นรูป จักษุวิญญาณ.จักษุสัมผัสตามความเป็นจริง เมื่อไม่รู้ไม่เห็นความเสวยอารมณ์เป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตาม ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัยตามความจริง ย่อมกำหนัดในจักษุ กำหนัดในรูป กำหนัดในจักษุวิญญาณ กำหนัดในจักษุสัมผัส กำหนัดในความเสวยอารมณ์เป็นสุข
ก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ตามที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย เมื่อบุคคลนั้นกำหนัดนักแล้วประกอบพร้อมแล้ว ลุ่มหลง เล็งเห็นคุณอยู่ย่อมมีอุปทานขันธ์ ๕ ถึงความพอกพูนต่อไป และเขาจะมีตัณหาที่นำไปสู่ภพใหม่
สหรคตด้วยความกำหนัด ด้วยอำนาจความยินดี อันมีความเพลิดเพลินในอารมณ์นั้นๆ เจริญทั่ว
จะมีความกระวนกระวายแม้ทางกาย
แม้ทางใจเจริญทั่ว เขาย่อมเสวยทุกข์ทางกายบ้าง
ทุกข์ทางใจบ้าง ฯ"

เราสงสัยกันว่า จะมีเบื้องต้นของสังสารวัฏฏบ้างหรือไม่ อวิชชาครั้งแรกที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นเกิดขึ้นอย่างไร?
และเกิดเมื่อใด? พระผู้มีพระภาคมิได้ทรงแสดงเรื่องเบื้องต้นของสังสารวัฏฏ์ เพราะไม่ใช่ทางดำเนินไปสู่ธรรมที่ดับกิเลส ขณะนี้มีอวิชชา นี่เป็นความจริง
..อวิชชาในขณะนี้เกิดมาจากอวิชชาในอดีต.. ถ้าอวิชชายังไม่ดับหมดสิ้น ก็จะยังมีอวิชชาสืบต่อไปในอนาคตไม่สิ้นสุด ชีวิตประดุจวงล้อรถที่หมุนไปอันหาเบื้องต้นไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเรามาจากภพไหน และจะไปสู่ภพไหน ชีวิตสั้นเหลือเกิน ประดุจความฝัน เราเกิดมามีอุปนิสัยต่างกัน และมีกิเลสสะสมมากมาย เราย้อนกลับไปดูในอดีตไม่ได้ว่า เราสะสมกิเลสมาอย่างไรบ้าง

บุคคลในอดีตก็มีกิเลสเหมือนกัน บางท่านก็ระลึกอดีตชาติได้ และรู้ว่าได้สะสมกิเลสมาต่างๆ กันอย่างไร?
ในขุททกนิกาย จัตตาฬีสนิบาต อิสิทาสีเถรีคาถา
มีข้อความเรื่องชีวิตของพระอิสิทาสีภิกษุณี ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี ท่านมีสามีมาแล้วหลายครั้ง แต่ภายหลังท่านได้อุปสมบทเป็นภิกษุณีและได้บรรลุอรหัตต์ ท่านระลึกอดีตชาติได้ และรู้เหตุที่ทำให้ต้องได้รับความทุกข์อันใหญ่หลวงนั้นว่า ในอดีตชาติท่านประพฤติผิดในกาม อกุศลกรรมนั้นทำให้เกิดในนรกตลอดกาลนาน และเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานสามชาติ หลังจากนั้นก็ได้เกิดเป็นมนุษย์สามชาติ และได้รับทุกข์อันใหญ่หลวงในชาติที่เป็นมนุษย์ด้วยจนกระทั่งได้บรรลุอรหัตต์


ชีวิตคือ การเกิด แก่ เจ็บ และตาย ความทุกข์โศกที่ทุกคนประสบในชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น ตราบใดที่ยังมีปัจจัยให้เกิดทุกข์นั้นๆ ในขุททกนิกาย ฉักกนิกาย ปัญจสตาปฏาจาราเถรีคาถา

มีข้อความเรื่องหญิงทั้งหลายที่โศกเศร้าเพราะสูญเสียบุตร หญิงเหล่านั้นได้ไปหาปฏาจาราภิกษุณี ซึ่งท่านเองก็ได้สูญเสีย สามี บุตรสองคน มารดา บิดา และพี่ชายในวันเดียวกัน ท่านเสียสติไปเพราะความโทมนัสอย่างใหญ่หลวง แต่ก็กลับได้สติบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันน์ และภายหลังก็ได้บรรลุอรหัตต์ ปฏาจาราภิกษุณีแสดงธรรมปลอบโยนหญิงผู้เศร้าโศกเหล่านั้นว่า

"ท่านไม่รู้ทางของผู้ใดซึ่งมาแล้ว หรือไปแล้ว
แต่ท่านก็ยังร้องไห้ถึงคนนั้นซึ่งมาจากไหนว่า
บุตรของเรา บุตรของเรา “
ถึงท่านจะรู้จักทางของเขาผู้มาแล้ว หรือไปแล้ว
ก็ไม่ควรเศร้าโศกถึงเขาเลย เพราะสัตว์ทั้งหลาย
มีอย่างนี้เป็นธรรมดา
เมื่อเขามาจากปรโลก ใครๆ ไม่ได้อ้อนวอนเลย เขาก็มาแล้ว เมื่อเขาจะไปจากมนุษย์โลก ใครๆ ก็ไม่ได้อนุญาตให้ไป
เขามาจากไหนก็ไม่รู้ พักอยู่ที่นี้ชั่วระยะเล็กน้อย แล้วไป ก็ดี
มาจากที่นี้สู่ที่อื่น ไปจากที่นั้นสู่ที่อื่น ก็ดี เขาละไปแล้วจากรูปมนุษย์ จักท่องเที่ยวไป มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น
“การร่ำไห้ในการไปของสัตว์นั้นจะเป็นประโยชน์อะไร"
เราไม่รู้ว่าใครมาจากภูมิไหนและจะไปสู่ภูมิไหน ภพชาติในอดีตนั้นไม่อาจประมาณได้ ฉะนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจว่าในอดีตอนันตรชาตินั้น บุคคลทั้งหลายย่อมเคยสัมพันธ์กันมาแล้วในฐานะต่างๆ ใน ฐานะ มารดา บิดา พี่ น้อง บุตร หลาน เราอยากจะวนเวียนไปในสังสารวัฎฎ์ต่อไปอีกหรือ?

ในขุททกนิกาย ฉักกนิบาต มหาปชาบดีโคตมีเถรีคาถา

พระมหาปชาบดีโคตมีเถรีได้บรรลุธรรมะที่ดับกิเลสแล้ว กล่าวว่า
".หม่อมฉันกำหนดรู้ทุกข์ทั้งปวงแล้ว
เผาตัณหาอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ให้เหือดแห้งแล้ว
ได้เจริญมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ แล้ว
ได้บรรลุนิโรธแล้ว ชนทั้งหลายเป็นมารดา เป็นบิดา
เป็นบุตร เป็นธิดา เป็นพี่ชาย เป็นน้องชาย เป็นปู่ย่า
ตายายกันในชาติก่อน หม่อมฉันไม่รู้ตามเป็นจริง
ไม่ประสบอริยสัจจ์ ๔ จึงได้ท่องเที่ยวไปในภพน้อยใหญ่
ก็หม่อมฉันได้เห็นพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแล้ว
อัตตภาพนี้มีในที่สุด ชาติสงสารสิ้นไปแล้ว
บัดนี้ภพใหม่มิได้มี…." 




บันทึกการเข้า
yuphin
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: หญิง
อายุ: 59
กระทู้: 1
สมาชิก ID: 1580


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2012, 07:40:11 AM »

Permalink: ชีวิตคืออะไร ชีวิตเกิดจากอะไร ชีวิตจะสิ้นสุดลงอย่า
ขอขอบคุณมากๆ สำหรับธรรมะดีๆ ค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ มีนาคม 29, 2024, 03:04:03 AM