สนทนาธรรม ฟังธรรม อ่านธรรมะ บทความธรรมะ หลักธรรมคำสอน กฎแห่งกรรม dhamma

เสื่อมสัทธรรม

--------------------------------------------------------------------------------

ได้อ่านข่าวพุทธศาสนิกชนทำบุญน้อยลงแล้วใจหาย
.

ข่าวว่าประชาชนส่วนใหญ่ถึงราวครึ่งหนึ่งหยุดทำบุญเพราะรายได้ลดลง ทำให้รู้สึกเห็นใจทั้งประชาชนและภิกษุสามเณร ยิ่งจำนวนเงินที่ทำบุญลดลงไปเกือบครึ่งก็คิดเป็นห่วงสงฆ์ว่าจะพบกับความแร้นแค้นมากขึ้น

นอกจากวันพระวันโกน ออกบิณฑบาตก็คงได้อาหารไม่เต็มบาตร อย่าว่าแต่เด็กวัดเลย ลำพังพระท่านก็คงไม่พอฉัน

แต่ที่น่าเศร้ากว่านั้น ก็คือผู้คนส่วนหนึ่งเบื่อหน่ายต่อข่าวไม่ดีไม่งาม ที่มีภิกษุสามเณรก่อเรื่องน่าเคืองรำคาญ ด้วยการมั่วสีกาบ้าง ดื่มสุราบ้าง เล่นการ-บ้าง ดังที่มีทีวีบางช่องแอบถ่ายภาพนำมาเผยแพร่ให้รู้เห็นเต็มตากันทั้งบ้านทั้งเมือง
..

.โดนจับได้ก็ถูกจับสึกไป

ที่เป็นพระปลอมก็ถูกดำเนินคดีไป
..........

แต่ข่าวคราวน่าอดสูเหล่านี้ก็ไม่เห็นว่าจะสิ้นสุดยุติ หรือน้อยลงแต่อย่างใด คงเกิดมีปรากฏขึ้นอยู่เนืองๆ

มีผู้ถามถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ว่าทอดธุระ มิได้ใส่ใจดูแล มัวแต่สนใจกิจนิมนต์ และลาภยศ เรียกว่ายังไม่สิ้นตัณหา คือความอยากได้ใคร่ดีดุจเป็นฆราวาส

แต่ถ้าไปถามพระเถระเหล่านั้นก็คงได้รับคำตอบว่า เหมือนจับปูใส่กระด้ง

มหาเถรสมาคมที่ควรเอาตาดูหูใส่ ขจัดเสี้ยนหนาม มารศาสนาเหล่านี้ให้หมดสิ้น ก่อนที่ประชาชนจะเสื่อมศรัทธาในศาสนา ก็มัวแต่ไปสนใจ สามเณรี ว่าพระพุทธเจ้าห้ามผู้หญิงบวช ทีเรื่องใหญ่กว่านั้นเช่น สมเด็จพระสังฆราช ทรงตัดสินว่าพระรูปหนึ่งปาราชิก ขาดความเป็นภิกษุแล้ว มหาเถรสมาคมกลับไม่ทำอะไรที่เป็นการสนองพระบัญชา

ดูแล้วอีหลักอีเหลื่อ น้ำท่วมปากพอๆ กับกรมศาสนา

ว่าแต่กรมศาสนาไปอยู่ที่ไหน? มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง?

บางทีอธิบดีกรมศาสนาอาจจะยังไม่รู้

ภิกษุสามเณรดีๆ มีมากมาย ต้องพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย เพราะโดนเหมารวมไปหมด เข้าทำนอง ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปทั้งข้อง

ออกเดินโปรดสัตว์ก็ถูกมองอย่างกังขา หวาดระแวงว่าจะเป็นพระจริงหรือพระปลอม? ถ้าเป็นพระจริงจะเอาอาหารคาวหวานไปขายต่อกับเจ้าประจำ แล้วออกมาเวียนเทียนหน้าตาเฉยอีกหรือเปล่า? หาเงินได้วันละ 100-200 บาท

เดือดร้อนกันไปหมด

ประชาชนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน คอยตรวจสอบอีกแรงหนึ่ง มิใช่ทอดทิ้งพระศาสนาไปเลย หรือคิดเอาง่ายๆ อย่างที่โบราณว่า ชั่วช่างชี - ดีช่างสงฆ์

เห็นมีสิ่งใดไม่ชอบมาพากลก็เข้าไปบอกกล่าวเจ้าอาวาส อย่าไปคิดว่าท่านไม่มีเวลา

มัวแต่ศึกษาค้นคว้าวิธีหายศหาตำแหน่ง ลงทุนติดสินบนด้วยวิธีแยบคายต่างๆ กับพระเถระชั้นผู้ใหญ่

หรือสำเร็จแล้วก็วางแผนถอนทุนคืนด้วยการพิมพ์ใบอนุโมทนาบัตรแจกจ่ายใครบ้าง

ภิกษุผู้น้อยรูปไหนไม่ใส่ซองหรือใส่ซองน้อยนักก็เอาปูนหมายหัวไว้

. เห็นพระทำความผิด เช่นดื่มสุรา หลับนอนกับสีกา เล่นการ-

ก็แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าไปคิดว่าตำรวจมัวแต่วิ่งวุ่นกับการหาส่วยรับส่วยจนไม่มีเวลา

. พระพุทธศาสนา เปรียบเสมือนไม้ใหญ่ที่ย่อมมีกาฝากมาเกาะมากมาย ถ้าเราช่วยกันกำจัดกาฝากด้วยปัญญาอันมีศรัทธาควบคู่กันไป

พระพุทธศาสนาย่อมสถิตสถาพรยั่งยืนสืบไปแน่นอน

"ศรัทธา นำปัญญา พางมงาย

ปัญญาบ่าย หน้านำ ก็คว่ำได้

ศรัทธาพร้อม ปัญญา พากันไป

ต้องมีให้ พร้อมกัน ทุกขั้นเอย"

อำนาจ ไทยเจริญ