ความวิบัติกำลังรอท่านอยู่
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนพวกเรามากว่า ๒,๐๐๐ ปี ว่า "การ-" เป็น "อบายมุข" คือ ปากทางแห่งความเสื่อม พวกเราเองก็ไม่ค่อยเชื่อฟัง ผลของการไม่เชื่อฟังชีวิตพังพินาศทุกราย
การที่สื่อสารมวลชนได้มีการประชาสัมพันธ์ ให้มีการชิงโชค ซึ่งเป็นทิศทางของการทำข่าว การขายสื่อสารและสปอนเซอร์ ก็ดูเหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้มีการเล่นการ-ขนานใหญ่
จากประชาชนลามไปถึงนักเรียน เวียนเข้าไปหาพระเณร
ถ้าพระเณรท่านเหลือทน ประชาชนก็ไม่เหลืออะไร
.ใครจะเป็นเจ้ามือโต๊ะบอลก็ต้องมีตำรวจคุ้มกันรู้เห็นเป็นใจ มีมือปืนคอยตามฆ่าคนที่โกงหนี้- ผลที่สุดการเป็นเจ้ามือก็ผิดกฎหมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะ คดีอุ้มคร่อม (สำหรับผู้หญิงสาวที่เล่น-) อุ้มฆ่า (สำหรับผู้ชายที่แทงก่อนจ่ายหลัง แต่ถึงเวลาสตางค์ไม่มี) ส่วนผู้เล่นก็ได้รับโทษคือฉิบหาย-ตายโหง อันเป็นผลของอบายมุขในเรื่องการ-
ผลเสียอันเป็นความวิบัติฉิบหายตายโหงของเจ้ามือและผู้เล่นการ-นั้น ประมวลตามคำสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ดังนี้
..
..เล่นแพ้ก็เสียใจ เล่น-ได้ก็เสียมิตร พูดเบือนบิดจากความเป็นจริง ถูกครอบครัวเพื่อนฝูงทอดทิ้ง พลัดพราก จากพ่อแม่ พลัดพรากจากลูกเมีย ชื่อเสียงเสียหาย หมดเงินเป็นหนี้ก็อับอาย เขาตามทวงหนี้ก็หนีหายหน้า ถูกฟ้องคดีอาญา ถูกตามอุ้มฆ่า เป็นผีตายโหง
อาตมาว่าอย่าไปโทษว่าคนอื่นทำให้เราชั่วเลย ตัวเองชั่วเอง ขอพูดให้ชัดๆ ว่า "เหล้า-ยาสูบ-ยาเสพติด-ยาพิษ" พ่อแม่ไม่เคยสอนให้กิน การ- พ่อแม่ไม่เคยสอนให้เล่น เป็นในสิ่งที่พ่อแม่ไม่สอน เล่นในสิ่งที่พ่อแม่ไม่สอน และพระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ มีแต่ ฉิบหาย-ตายโหง ทั้งนั้น
.
(พระพิพิธธรรมสุนทร)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม
สลักธรรม 1
...ดูบอลโลกย้อนมองดูตัวเอง
ซูเปอร์สตาร์ฟุตบอลโลกอย่าง ไมเคิล โอเว่น, เดวิด เบ็คแฮม, ซีเนอดีน ซีดาน และเธียร์รี อองรี ล้วนเป็นขวัญใจชาวไทยทั้งสิ้น เมื่อนิยมชมชอบในความสามารถของเขา คนที่เล่นฟุตบอลอยู่ต้อง คิดว่าเล่นฟุตบอล อย่างไรถึงจะเก่งเหมือนเขา ทำไมเราไม่พัฒนาตัวเองให้มีความสามารถเท่าเทียมเขาบ้าง
ดูฟุตบอลโลกให้ได้ประโยชน์ ต้องย้อนมองตัวเองว่ามีความเก่งความสามารถอะไรที่จะแสดงออกมาบ้าง ในที่นี้อาตมา ไม่ได้หมายความว่าต้องเตะฟุตบอลเก่งเหมือนเขา แต่อาตมาหมายความว่า ใครมีหน้าที่ ใครทำงานอะไรอยู่ ก็พัฒนา งานนั้นให้โดดเด่นขึ้นมา โอกาสในการสร้างชื่อเสียงให้ตนเองมีหลายทาง ไม่ได้อยู่ที่การเตะฟุตบอลอย่างเดียว มันอยู่ที่ตัวเราว่าจะหยิบจะไขว่คว้าหรือไม่
สมัยอาตมาเป็นเด็กๆ นอกจากไม่ได้เล่นฟุตบอลแล้วยังไม่รู้จักฟุตบอลด้วยซ้ำ ส่วนกีฬายอดฮิตของเด็กสมัยอาตมาก็คือ "หมากฮอส" และ "หมากเก็บ" ซึ่งเป็นกีฬาเอาชนะกันด้วยสมองด้วยความคิด นอกจากนี้ก็มี "วิ่งเปี้ยว" อีกอย่างหนึ่ง เล่นเพื่อ เอาความสนุก รวมทั้งเพื่อให้ได้เหงื่อเท่านั้น ไม่ได้เล่นเพื่อให้ได้เงิน
กีฬาทุกชนิดล้วนมีประโยชน์ในตัวของมันอยู่แล้ว คนเรานั้นแหละเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้กีฬากลายเป็นโทษ เขาเตะกัน อยู่ดีๆ ที่ญี่ปุ่นและเกาหลี แต่คนไทยส่วนหนึ่งกลับตกเป็นทาสของ การ-ฟุตบอล เป็นเรื่องน่าอดสูยิ่งนัก
ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาตมาไม่อยากเห็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่อยากเห็นคนฉกชิงวิ่งราวเพื่อหาเงินไปเล่น-ฟุตบอล ไม่อยากเห็นความชั่วร้ายที่มีผลสืบเนื่องมาจากฟุตบอล ไม่อยากเห็นเด็กนักเรียนเสียอนาคตเพราะลูกกลมๆ เพียงลูกเดียว
ฟุตบอลโลกดูได้แต่ขอให้ดูเพื่อความสนุก ขอให้ดูแล้วให้เกิดปัญญา อย่าให้เกิดตัณหา สุภาษิตที่ว่า "โจรปล้น สิบครั้งไม่เท่ากับไฟไหม้บ้านครั้งเดียว และไฟไหม้บ้านสิบครั้ง ไม่เท่ากับเล่น การ-ครั้งเดียว" คนไทยยังจำได้กันอยู่หรือเปล่า...