ธีระ
เวลาโกรธลืมดัว มักจะโมโหร้ายอารมณ์พุ่งเอาไว้ไม่อยู่ อยากแก้ไขดัวเอง พยายามแล้วไม่หาย ด้องมาเสียใจทีหลังทุกครั้ง เหมือนมันไม่ใช่ดัวของเราเอง ช่วยแนะนำด้วยครับ
พึงเจริญสติแล้วระลึกไว้ในใจอยู่เนืองๆเสมอๆดังนี้ว่า
- เราไม่อาจจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปดั่งที่ใจเราปารถนาใคร่ได้ยินดีไปหมดทุกอย่าง เราย่อมมีความผิดหวังไม่สมดั่งหวังตั้งความพอใจยินดีเป็นธรรมดา
- เราทั้งหลายจะต้องประสบพบเจอกับสิ่งอันไม่เเป็นที่รักที่พอใจยินดีอยู่ทุกวันทุกเวลา อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แล้ไม่สามารถบังคับสิ่งใดๆให้เป็นไปตามใจเราต้องการได้
- พึงตั้งสติรู้จักหยุด ให้หยุดคิดก่อนที่จะทำการใดๆด้วยอารมณ์ หยุดที่จะกระทำในการนั้นแล้วนำมาตรึกนึกพิจารณาถึงผลได้-ผลเสียใดๆหากเราได้กระทำการนั้นๆลงไปในตอนนี้ มันจะควรและเหมาะแก่กาลหรือไม่
- พึงตั้งสติรู้จักประมาณตน ให้มองย้อนดูถึงสิ่งที่ตนเองนั้นเป็นอยู่ เรามีค่ามากพอที่จะกระทำสิ่งที่เราใคร่ครวญหรือต้องการที่จะทำอยู่ไหม อย่าให้ความสำคัญตนเองมากไปเพราะเราอาจจะไม่มีค่าใดๆเลยกับคนอื่นก็เป็นได้ อย่าตั้งหวังมากจนเกินกว่าที่ตนจะทำได้ แล้วเจริญในใจเสมอๆว่าเราไม่มีค่าสูงเกินกว่าใคร ให้ระลึกดังนี้ว่า "พระสารีบุตร ท่านยังพึงระลึกในใจอยู่เนืองๆว่าท่านเป็นแค่เศษผ้าขี้ริ้ว ทีมีคุณค่าเพียงน้อยนิดไม่ได้อยู่สูงกว่าใคร"
- พึงตั้งสติรู้จักพอ พอใจในสิ่งที่ได้มีที่เป็นอยู่ แม้มันไม่มีเพิ่มขึ้นแต่มันไม่ได้เสียไปมากกว่าเดิม อยู่ที่เราต้องยอมรับความเป็นจริง พอใจในสิ่งที่เรามีเราเป็นอยู่ อย่าคิดหวังทะยานอยากที่จะได้เกินตัวมันจะนำความทุกข์มาให้
- มองหาสิ่งที่เราเอามาตั้งสำคัญมั่นหมายไว้ในใจ ดับที่ความพอใจยินดีนั้นๆ
- ติดข้องใจสิ่งใด ให้ละสิ่งนั้นด้วยใช้สติพิจารณาจนเห็นจริงด้วยปัญญาถึง ผลดี-ผลร้าย ในสิ่งที่เราติดข้องใจนั้นๆ
- จิตจะเข้าสู่อุเบกขา
- พึงเจริญเมตตาจิตอยู่เนืองๆเพื่อลดสภาพจิตที่ขุ่นมัวในใจ รู้จักนึกคิดปารถนาดี ปารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุขพ้นจากทุกข์ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ
- พึงเจริญภาวนาในใจไม่ให้เราเป็นผู้ผูกจองเวรใคร ไม่ให้เราพยายาบาทเบียดเบียนใคร ให้เราเป็นผู้มีปกติสุข มีจิตผ่องใส มีใจ เอื้อเฟื้อ