ขอตอบพอสังเขปตามความรู้ที่พอมีนะครับ
การทำบุญด้วยมือตนเองย่อมได้บุญมากกว่าฝากไป เรื่องนี้จำได้คร่าวๆว่า พระราชาองค์หนึ่ง สั่งให้คนใช้ดูแลโรงทาน ทำหน้าที่ให้อาหารแก่คนยากจน โดยตนเองออกทรัพย์ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่ว่าไม่ได้เป็นคนให้ทานเองด้วยมือ ปรากฎว่าตายไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมฯ แต่คนใช้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ซึ่งอยู่สูงกว่า
การทำบุญมี 10 อย่าง ย่อลงเป็น 3 คือ ทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย โดยมีอานิสงค์คือ ทานทำให้ร่ำรวย ศีลทำให้อายุยืน ภาวนาทำให้มีปัญญา
การบูชาพระพุทธเจ้า มี 2 อย่าง คือ อามิสบูชา และ ปฎิบัติบูชา แต่ทรงยกย่องว่า การปฏิบัติบูชาคือการบูชาพระองค์อย่างแท้จริง
**********
จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับคนสูงอายุ ผมได้พบว่า คนสูงอายุจะมีความคิดว่า ตนมีเวลาเหลือน้อยแล้ว จึงอยากรีบแสวงสะสมบุญให้มากที่สุดก่อนจะไม่มีโอกาส ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่มักเห็นคนสูงอายุขวนขวายในงานบุญการกุศลต่างๆ
สิ่งที่จะติดตามเราไปยังสัมปรายภพมี 2 อย่าง คือ บุญ กับ ปัญญา แต่ บุญ มีแล้วนานไปอาจหมดได้ แต่ ปัญญา (ความเห็นถูก) มีแล้วย่อมอยู่กับเราตลอดไป และเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การหลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเกิดให้ต้องเป็นทุกข์ แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป
ขอเจริญในธรรม
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนากับคุณ 1 บาท กล่าวไว้ดีแล้วครับ
ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ
คุณลองตามท่านไปดูที่วัดด้วยสิครับ
หยุดงานสัก 1 วัน แล้วลองตามหลังท่านไปดูโดยอาจจะไม่ต้องบอกท่านก็ได้
ลองไปแอบดูคุณแม่คุณทำบุญว่าเป็นอย่างไร อยู่อย่างไร ทำอย่างไร
เมื่อคุณเห็นตามจริงทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหมดความอนุมานคาดคะเนสงสัยเอง
การอนุมานเอาโดยไม่รู้จริง ไม่เห็นจริง ไม่ใช่การกระทำด้วยปัญญา เราควรทำให้เห็นจริง รู้ตามจริงจึงจะเกิดผล
ตอนนี้คุณมานั่งอนุมานแล้วก็เป็นทุกข์ อันนี้มันทุกข์เพราะคิด ทั้งๆที่ไม่เห็นตามจริง
เมื่อเห็นตามจริงก่อนแล้ว พบว่ามันเป็นเหมือนที่คุณอนุมานไว้ คุณจึงค่อยเป็นทุกข์แล้วมาคิดหาทางแก้ไข
เมื่อเห็นตามจริงก่อนแล้ว พบว่าสิ่งที่แม่ท่านทำมันประเสริฐ งดงามแล้ว ดีแล้ว คุณต้องควรเจริญตามท่าน
ส่วนเรื่องคุณพ่อคุณ คุณระลึกถึงบุญคุณท่าน รู้บุญคุณท่าน แล้วก็ทำหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุด ตอบแทนท่าน อนุเคราะห์ท่าน อันนี้ก็เรียกว่า กตัญญู กตเวที
การอนุโมทนานั้นคุณคิดว่าบุญมันเยอะมากหรืออย่างไร หากคุณคิดว่าการอนุโมทนาบุญนั้นเป็นการปฏิบัติธรรมคุณก็ติดผิดแล้ว
การอนุโมทนานั้น ส่วนหนึงคือมุทิตาจิตยินดีเมื่อเขาพ้นทุกข์ประสบสุข ยินดีเมื่อเขาได้กระทำหรือพบเจอสิ่งที่ดีงามเป็นกุศล
การอนุโมทนาบุญ แต่ไม่สร้างบุญต่อ บาปก็ยังทำอยู่ประจำ ศีลก็ไม่มี ทำสมาธิก็ไม่เคยมันก็ไม่มีประโยชน์ไรๆ
หากคุณทำการอนุโมทนาบุญแก่ผู้อื่นได้ คุณก็ต้องอนุโมทนากับแม่คุณได้ที่ท่านเข้าวัดปฏิบัติธรรม ส่วนท่านทำจริงหรือไม่คุณก็ต้องไปดูเองที่วัด
หากคุณทำการอนุโมทนาบุญแก่ผู้อื่นได้ คุณก็จะต้องมีความคิดดีเป็นกุศล พูดดีเป็นกุศล ทำดีเป็นกุศล ด้วยเช่นกัน
หากคุณทำการอนุโมทนาบุญแก่ผู้อื่นได้ คุณก็ต้องเจริญปฏิบัติใน ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน และ สมาธิ ได้ด้วยเช่นกัน
ลองดูครับสุดท้ายก็ขอให้คุณเห็นทุกข์ของตนจากความคิดนั้น แล้วละมันเสียให้ได้นะครับ เพื่อความออกจากทุกข์ที่มีอยู่