เมษายน 20, 2024, 07:31:56 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กาทำบูญ  (อ่าน 13122 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ปรินทร
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: ชาย
อายุ: 63
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2727


อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2013, 11:59:15 PM »

Permalink: กาทำบูญ
บูญที่แท้จริง เกิดจากใจก่อนกระทำใช่หรือไม่ บุญถึงแม้ไม่ได้ไปกระทำด้วยตนเอง ก็ฝากไปทำได้หรือไม่ บุญแม้มิได้กระทำ
และลงแรงแค่โมธนาสาธุอันเกิดจากใจที่เป็นกุศล ก้ได้บุญใช่หรือไม่ ผมเป็นข้าราชการอายุ 53 ปี มีแม่ และพ่อบุญธรรม รวมทั้ง
ครอบครัวที่ต้องดูแล มารดาผมอายุ 70 กว่า พ่อเลี้ยงอายุประมาณ 80 ต้นๆ ด้วยความที่พ่อเลี้ยงดูแลให้การศึกษาและอาชีพการงาน ผมจึงสำนึกในบุญคุณ นำท่านทั้งสองมาดูแลอยู่ด้วยที่อาคารบ้านพักของข้าราชการ อยู่ด้วยกันสามคน มารดาผมชอบทำบุญไปด้วยตนเองทุกครั้ง ส่วนผมทำงานทุกวันเพราะรายจ่ายเยอะ ผมได้พยายามอธิบายกับมารดาว่าอย่าเดินทางไปทำบุญบ่อยเลยอายุมากแล้วมันลำบาก อีกทั้งพ่อเลี้ยงอายุมากแล้วบางที่หลงลืมจะได้คอยช่วยดูแล เพราะผมต้องไปทำงานทุกวัน แก่ก็บอกว่าไม่ได้ไปไหนไปทำบุญ ผมก็บอกมารดาว่า แม่ก็ฝากเขาก้ได้ แค่แม่คิดแม่ก็ได้บุญแล้ว แต่การที่แม่ไปมันทำให้คนที่อยู่ข้างหลังมีทุกข์ กอร์ปกับผมต้องทำงานทุกวัน ซึ่งที่จริงผมหยุดก็ได้ แต่ผมรับงานเขาไว้แล้ว และแม่ไม่เคยบอกล่วงหน้า ทั้งที่แก่บอกว่าแก่รับปากเขาไว้ ซึ่งที่จริงปฎิเสธก็ได้แล้วก็ฝากเขาไปทำบุญ ผมเคยบอกแก่ว่า พ่อเลี้ยงเขามีบุญคุณกับเรามากนะ ช่วงปลายชีวิตแก่น่าที่จะถนุถนอมเขา บางครั้งผมเห็นพ่อเลี้ยงแล้วสงสารแก แกไม่มีใครนอกจากพี่น้องแกที่คอยถามไถ่ ผมพยาหาของดีๆ มีคุณภาพมาให้แกทานเสมอ ผมเห็นแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้ ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ก็เหมือนพ่อแท้ๆ ผมก็เลยบอกแม่ไปว่าตามใจแม่เถอแม่อยากทำอะไรก็ทำ แม่ไม่ต้องบอกผมหรอกทุกวันนนี้ผมก็บาปพออยู่แล้ว ที่ต้องคอยปรามแม่บอกแม่ ถึงบ้างครั้งผมยังบอกแม่เลยว่าไปวัดได้อะไรมาบ้างธรรมะสอนอะไรให้แม่บ้าง ผมบอกกับตัวเองว่า พระนอกบ้าน มีหลายคนที่จะไปทำบุญสุนทาน แตะพระในบ้านเล่าจะมีสักกี่คนที่จะใส่ใจหาให้ท่านทาน ผมหาผลไม้ ขนมนมเนยมา หรือได้มาผมไม่ค่อยทานจะเก็บกลับเอามาให้ท่านทั้งสองทานเสมอ ผมอ่อนใจในการขอร้องไม่ให้แม่เดินทางไปทำบุญไกล หรืออย่างน้อยบอกผมล่วงหน้าผม
จะได้ไม่ต้องรับงานเขาไว้ มันเป็นเงินไม่มากมาย แต่มันจำเป็นสำหรับความเปนอยู่ของผม อย่างน้อยรายได้ตัวนี้พอที่จะเป็นค่าอาหารประจำวันของผม เพาระเงินเดือนผมต้องดูแลลูกค่ารถ ค่าข้าวารน้ำไฟอุปกรณืทำความสะอาดในครัวเรือน ผมคดถูกหรือผิด ที่พยายามขอร้องแม่ให้เข้าใจในความรู้สึกของลูกที่มีต่อพ่อและแม่ ผมกลัวบาป แต่หลายครั้งผมอดไม่ได้ที่จะบอกให้เขาใจ แต่ดูเหมือนว่าแม่ผมจะคิดว่า ช่างลูกมัน เดี๋ยวกลับมามันก็เงียบเอง ผมท้อจริงๆครับ ท่านใดมีความรู้ช่วยบอกผมที่เถอะว่า ผมคิดผิดหรือถูก ผมควรทำอย่างไร เพื่อที่จะต้องไม่บาป หายครั้งที่ผมทำไป ผมมานั่งคิดว่าสงสัยตายไปคงตกนรกแน่ๆ อีกอย่างหนึ่ง แม่ผมไปวัด กลับมาแม่มักเอา ขนมทองหยิบ ทองหยอด มาจากวัด ผมถามวาเอามาได้งัย แกบอกว่าพระให้มา ผมบอกว่าถ้าท่านให้แม่ แม่ก็ทานที่วัดให้อิ่ม ไม่ต้องเอากลับมาบ้าน ที่บ้านหาซื้อเอง เอาเก็บไว้ให้กับตนอื่นที่เขายังไม่ได้ทาน อีกอย่างผมกลัวแม่ผมไปเอาของที่พระไม่ได้ให้มา มันจะบาปซิครับ ทุกวันนี้ผมไม่สบายใจเลย เมื่อผมเห็นขมทองหยิบ ทองหยอด ในตู้เย็น ผมไม่กล้าแตะเลยครับ มันยาวหน่อยนะครับ ขอความสว่างด้วยครับ




บันทึกการเข้า
๑ บาท
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: ชาย
อายุ: 47
กระทู้: 57
สมาชิก ID: 2008


« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2013, 12:32:28 AM »

Permalink: กาทำบูญ
ขอตอบพอสังเขปตามความรู้ที่พอมีนะครับ

การทำบุญด้วยมือตนเองย่อมได้บุญมากกว่าฝากไป  เรื่องนี้จำได้คร่าวๆว่า พระราชาองค์หนึ่ง สั่งให้คนใช้ดูแลโรงทาน ทำหน้าที่ให้อาหารแก่คนยากจน โดยตนเองออกทรัพย์ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่ว่าไม่ได้เป็นคนให้ทานเองด้วยมือ ปรากฎว่าตายไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมฯ แต่คนใช้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ซึ่งอยู่สูงกว่า

การทำบุญมี 10 อย่าง ย่อลงเป็น 3 คือ ทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย  โดยมีอานิสงค์คือ ทานทำให้ร่ำรวย  ศีลทำให้อายุยืน ภาวนาทำให้มีปัญญา

การบูชาพระพุทธเจ้า มี 2 อย่าง คือ อามิสบูชา และ ปฎิบัติบูชา แต่ทรงยกย่องว่า การปฏิบัติบูชาคือการบูชาพระองค์อย่างแท้จริง

**********

จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับคนสูงอายุ ผมได้พบว่า คนสูงอายุจะมีความคิดว่า ตนมีเวลาเหลือน้อยแล้ว จึงอยากรีบแสวงสะสมบุญให้มากที่สุดก่อนจะไม่มีโอกาส ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่มักเห็นคนสูงอายุขวนขวายในงานบุญการกุศลต่างๆ

สิ่งที่จะติดตามเราไปยังสัมปรายภพมี 2 อย่าง คือ บุญ กับ ปัญญา  แต่ บุญ มีแล้วนานไปอาจหมดได้  แต่ ปัญญา (ความเห็นถูก) มีแล้วย่อมอยู่กับเราตลอดไป และเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การหลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเกิดให้ต้องเป็นทุกข์ แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป

ขอเจริญในธรรม
บันทึกการเข้า
เกียรติคุณ
ผู้ปฏิบัติธรรม
*****

พลังความดี : 65


เพศ: ชาย
อายุ: 46
กระทู้: 958
สมาชิก ID: 841


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2013, 03:53:19 PM »

Permalink: กาทำบูญ
อ้างถึง
ขอตอบพอสังเขปตามความรู้ที่พอมีนะครับ

การทำบุญด้วยมือตนเองย่อมได้บุญมากกว่าฝากไป  เรื่องนี้จำได้คร่าวๆว่า พระราชาองค์หนึ่ง สั่งให้คนใช้ดูแลโรงทาน ทำหน้าที่ให้อาหารแก่คนยากจน โดยตนเองออกทรัพย์ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่ว่าไม่ได้เป็นคนให้ทานเองด้วยมือ ปรากฎว่าตายไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมฯ แต่คนใช้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ซึ่งอยู่สูงกว่า

การทำบุญมี 10 อย่าง ย่อลงเป็น 3 คือ ทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย  โดยมีอานิสงค์คือ ทานทำให้ร่ำรวย  ศีลทำให้อายุยืน ภาวนาทำให้มีปัญญา

การบูชาพระพุทธเจ้า มี 2 อย่าง คือ อามิสบูชา และ ปฎิบัติบูชา แต่ทรงยกย่องว่า การปฏิบัติบูชาคือการบูชาพระองค์อย่างแท้จริง

**********

จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับคนสูงอายุ ผมได้พบว่า คนสูงอายุจะมีความคิดว่า ตนมีเวลาเหลือน้อยแล้ว จึงอยากรีบแสวงสะสมบุญให้มากที่สุดก่อนจะไม่มีโอกาส ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่มักเห็นคนสูงอายุขวนขวายในงานบุญการกุศลต่างๆ

สิ่งที่จะติดตามเราไปยังสัมปรายภพมี 2 อย่าง คือ บุญ กับ ปัญญา  แต่ บุญ มีแล้วนานไปอาจหมดได้  แต่ ปัญญา (ความเห็นถูก) มีแล้วย่อมอยู่กับเราตลอดไป และเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การหลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเกิดให้ต้องเป็นทุกข์ แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป

ขอเจริญในธรรม

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนากับคุณ 1 บาท กล่าวไว้ดีแล้วครับ

ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ
คุณลองตามท่านไปดูที่วัดด้วยสิครับ
หยุดงานสัก 1 วัน แล้วลองตามหลังท่านไปดูโดยอาจจะไม่ต้องบอกท่านก็ได้
ลองไปแอบดูคุณแม่คุณทำบุญว่าเป็นอย่างไร อยู่อย่างไร ทำอย่างไร
เมื่อคุณเห็นตามจริงทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหมดความอนุมานคาดคะเนสงสัยเอง
การอนุมานเอาโดยไม่รู้จริง ไม่เห็นจริง ไม่ใช่การกระทำด้วยปัญญา เราควรทำให้เห็นจริง รู้ตามจริงจึงจะเกิดผล
ตอนนี้คุณมานั่งอนุมานแล้วก็เป็นทุกข์ อันนี้มันทุกข์เพราะคิด ทั้งๆที่ไม่เห็นตามจริง
เมื่อเห็นตามจริงก่อนแล้ว พบว่ามันเป็นเหมือนที่คุณอนุมานไว้ คุณจึงค่อยเป็นทุกข์แล้วมาคิดหาทางแก้ไข
เมื่อเห็นตามจริงก่อนแล้ว พบว่าสิ่งที่แม่ท่านทำมันประเสริฐ งดงามแล้ว ดีแล้ว คุณต้องควรเจริญตามท่าน
ส่วนเรื่องคุณพ่อคุณ คุณระลึกถึงบุญคุณท่าน รู้บุญคุณท่าน แล้วก็ทำหน้าที่ดูแลให้ดีที่สุด ตอบแทนท่าน อนุเคราะห์ท่าน อันนี้ก็เรียกว่า กตัญญู กตเวที
การอนุโมทนานั้นคุณคิดว่าบุญมันเยอะมากหรืออย่างไร หากคุณคิดว่าการอนุโมทนาบุญนั้นเป็นการปฏิบัติธรรมคุณก็ติดผิดแล้ว
การอนุโมทนานั้น ส่วนหนึงคือมุทิตาจิตยินดีเมื่อเขาพ้นทุกข์ประสบสุข ยินดีเมื่อเขาได้กระทำหรือพบเจอสิ่งที่ดีงามเป็นกุศล
การอนุโมทนาบุญ แต่ไม่สร้างบุญต่อ บาปก็ยังทำอยู่ประจำ ศีลก็ไม่มี ทำสมาธิก็ไม่เคยมันก็ไม่มีประโยชน์ไรๆ
หากคุณทำการอนุโมทนาบุญแก่ผู้อื่นได้ คุณก็ต้องอนุโมทนากับแม่คุณได้ที่ท่านเข้าวัดปฏิบัติธรรม ส่วนท่านทำจริงหรือไม่คุณก็ต้องไปดูเองที่วัด
หากคุณทำการอนุโมทนาบุญแก่ผู้อื่นได้ คุณก็จะต้องมีความคิดดีเป็นกุศล พูดดีเป็นกุศล ทำดีเป็นกุศล ด้วยเช่นกัน
หากคุณทำการอนุโมทนาบุญแก่ผู้อื่นได้ คุณก็ต้องเจริญปฏิบัติใน ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน และ สมาธิ ได้ด้วยเช่นกัน

ลองดูครับสุดท้ายก็ขอให้คุณเห็นทุกข์ของตนจากความคิดนั้น แล้วละมันเสียให้ได้นะครับ เพื่อความออกจากทุกข์ที่มีอยู่






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2013, 03:54:53 PM โดย เกียรติคุณ » บันทึกการเข้า
ปรินทร
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: ชาย
อายุ: 63
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2727


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2013, 12:21:05 AM »

Permalink: กาทำบูญ
ผมขอขอบคุณท่านทั้งสองที่กรุณาตอบ ผมทำใจหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างผมคงพูดไม่หมด มันก็เลยอธิบายลำบาก อีกอย่างท่านเป็นแม่ผมจึงไม่อยากวิจารณ์ท่าน มันจะเป็นบาปต่อผม ผมไม่คิดอะไรแล้ว ผมขอดูแลคนที่อยู่ที่บ้าน(พ่อ)ดีกว่า ส่วนแม่แล้วแต่ท่านจะเห็นควรเถอะ ยังไงผมก็คิดว่าคนที่บ้านสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ท่านไม่มีโอกาสแม้แต่จะทำบุญ ผมขอทำบุญกับพระองค์นี้ดีกว่า ในส่วนอื่นผมทำอยู่เป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว เช่นผมจะเก็บเงินใส่กระปุ๊กทุกวัน พอสิ้นเดือนหรือมีโอกาส ผมจะนำเงินนั้นไปให้ เด็กผู้ยากไร้ สุนัขจรจัดที่วัดดูแลไว้ วัดที่ขาดแคลน(ความเจริญ) แล้วแต่ในแต่ละเดือนที่เก็บได้ ผมก็สุขใจแล้ว ที่กล่าวมาข้างต้นมิได้มีเจตนาที่จะว่บุบผการี แต่ไม่อยากให้ท่านลำบากเท่านั้น ท่านอายุมากแล้ว เจริญวิปัสนากรรมฐานก็ได้ ขอขอบคุณทุกท่านด้วยความจริงใจ อีกอย่างหนึ่งงานผมหยุดไม่ได้จริงๆ หน่วยงานผม เป็นหน่วยงานที่สำคัญสำหรับพนักงานสอบสวน ในเรื่องของอาชญากร และในส่วนของผมมีคนทำงานเพียง 5 คน ต้องรับผิดชอบในส่วนของ สถานีตำรวจในกรุงเทพฯทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็คิดดูแล้วกันครับว่าผู้ต้องหาจะมากมายขนาดใหน ผมต้องรับใช้ประเทศชาติ และรับใช้บิดามารดาโดยที่ผมทิ้งอะไรไม่ได้สักอย่าง ขอขอบพระคุณครับ
บันทึกการเข้า
sternoi789
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


อายุ: 10
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2734


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2013, 06:30:20 PM »

Permalink: กาทำบูญ
อยู่ที่จิตใจล้วนๆ
บันทึกการเข้า
singsing32
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: ชาย
อายุ: 9
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2825


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2014, 11:19:38 AM »

Permalink: กาทำบูญ
นั่งสมาธิครับ ได้บุญเยอะดี
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ มีนาคม 31, 2024, 06:03:12 PM