วิถีจิต หมายถึง การเกิดขึ้นเป็นลำดับติดต่อกันของ จิต เจตสิก
การเกิดของวิถีจิต ก็เพราะมีอารมณ์มากระทบกับประสาทรับรู้ทั้ว ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เช่น การเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น
ได้ลิ้มรส ได้สัมผัส และ การคิดนึก แม้ขณะกำลังฝัน
โดย จิต จะเกิดขึ้นทำหน้าที่เป็นลำดับติดต่อกันไป กล่าวคือ
เมื่อมีอารมณ์มากระทบ สมมุตติ เป็นการได้เห็นนกตัวหนึ่ง ซึ่งขอเรียก นกที่เห็นว่า รูปารมณ์ เกิดวิถีขึ้นดังนี้
๑.เมื่อรูปารมณ์มากระทบกับจักขุปสาท ภวังคจิต ก็ไหวตัวขึ้น ๒ ขณะ ทำหน้าที่ตัดกระแสภวังค์ หรือ ปลุก ปัญจทวารให้เปิดรับ
๒.ปัญจทวาราวัชชนจิต เกิดขึ้นต่อจากนั้น จักขุวิญญาณจิตเกิดต่อเพื่อทำหน้าที่เห็นรูปารมณ์ที่มารออยู่
๓.สัมปฎิจฉนจิตเกิดต่อ ทำหน้าที่รับอารมณ์
๔.สันตีรณจิตเกิดต่อ ทำหน้าที่พิจารณาอารมณ์
๕.โวฏฐัพพนจิตเกิดต่อ ทำหน้าที่ตัดสินอารมณ์
๖.ชวนะจิตเกิดขึ้น ทำหน้าที่เสพอารมณ์โดยความเป็น กุศลหรือ อกุศล
๗.ต่อจากนั้น ตทาลัมพนจิต เกิดขึ้น ๒ ขณะ ทำหน้าที่รับอารมณ์ต่อจากชวนะก่อนจะตกลงภวังค์ต่อไปอีก
*********************
อารมณ์ที่มาปรากฎจะดีหรือไม่ดี เป็นวิบากคือผลของกรรมที่เราทำไว้ในอดีตที่ผ่านมา แต่ขวนะที่เข้าไปเสพนั้นเป็นปัจจุบันกรรมที่เรากำลังสร้างขึ้นใหม่ โดยเสพด้วยจิตที่เป็น กุศล หรือ อกุศล นี่คือกรรมใหม่ที่กำลังสร้างขึ้น
ปรินิพพานวิถี คือมรณวิถีของพระอรหันต์
พระอรหันต์ทั้งหลาย ไม่ปรินิพพานทางปัญจทวารมรณาสันนวิถี แต่ปรินิพพาน มโนทวารมรณาสันนวิถีทางเดียว และไม่มีอารมณ์ทั้ง ๓ คือ กรรมอารมณ์, กรรมนิมิต-อารมณ์, คตินิมิตอารมณ์,
มรณาสันนวิถีของพระอรหันต์นับได้ว่ามี ๕ อย่าง คือ
๑. กามชวนะมรณาสันนวิถี คือจุติจิตเกิดขึ้นต่อจากชวนะที่เป็นมหากิริยาอย่างนี้ นับว่าเป็นการปรินิพพานอย่างธรรมดาสามัญ
๒. ฌานสมนันตรวิถี คือจุติจิตที่เกิดขึ้นต่อจากฌานสมาบัติวิถี
๓. ปัจจเวกขณสมนันตรวิถี คือจุติจิตเกิดขึ้นต่อจากวิถีที่พิจารณาองค์ฌาน
๔. อภิญญาสมนันตรวิถี คือจุติจิตที่เกิดขึ้นต่อจากอภิญญาวิถีที่แสดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ
๕. ชีวิตสมสีสี คือจุติจิตที่เกิดขึ้นต่อจากการพิจารณา มัคค, ผล, นิพพาน, และกิเลสที่ประหารสิ้นแล้ว
*****************************
ศุภวาร กาลดิถี ขึ้นปีใหม่
พรอันใด ที่ว่าเลิศ ประเสริฐศรี
จงประสิทธิ์ อิทธิผล สมฤดี
บังเกิดมี แด่ทุกท่าน สุขสันต์เทอญฯ
ศุภ พร จง บังเกิด
แด่ทุกท่านเทอญฯ