เมษายน 20, 2024, 09:14:35 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คำสาปแช่งจากผู้ให้กำเนิด  (อ่าน 7479 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดอกบัว
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: หญิง
อายุ: 33
กระทู้: 1
สมาชิก ID: 3048


« เมื่อ: มิถุนายน 30, 2016, 01:10:44 PM »

Permalink: คำสาปแช่งจากผู้ให้กำเนิด
สวัดีค่ะ...หนูเพิ่งมีปัญหามาสดๆร้อนๆ คือหนูเพิ่งโดนผู้ให้กำเนิดที่เรียกว่าแม่สาปแช่งมาเป็นชุดเลยค่ะ โดยสรุปได้ว่า ขอให้ธรณีสูบ และไม่เจริญ อีเตี้ย(เซนเซอร์ค่ะ) ซึ่งเค้าคนนี้เป็นคนคลอดหนูมาก็จริง แต่ไม่เคยเลี้ยงดูหนูเลยจนตอนนี้หนูอายุ25ค่ะ หนูอยู่กับยายซึ่งหนูเรียกแม่มาตลอด ปี สองปีมานี้ แม่ผู้ให้กำเนิดโทรมาขอเงินกับแม่เลี้ยงหนูตลอด ชอบอ้างว่าจะโดนจับ จะติดคุก เดี๋ยวจบเรื่องจะคืนให้ ซึ่งผ่านไปไม่ได้คืนสักบาท หนูบอกแม่เลี้ยงตลอดว่าถ้าให้แล้วเราเดือดร้อนก็ไม่ต้องให้เถอะ เราไม่ได้รวย ปัญหาใครปัญหามัน จนวันนี้ เค้าโทรมาขอเงินอีกหนูเลยคุยเองว่าทำไมถึงกลัวคนอื่นเดือดร้อน ทำไมไม่คิดถึงแม่เลี้ยงหนู หรือหนูเดือดร้อนบ้าง จนเค้าโมโหค่ะ แล้วขึ้นเสียงใส่หนูทโทรศัพท์ว่า 'มึงเป็นเหี้ยอะไร..ด่าๆๆๆๆๆ มาเป็นชุด....' และตามด้วยคำสาปแช่งมากมาย หนูยอมรับว่าหนูก็สวนไปบ้างด้วยโมโหหนูจะบาปไหม๊คะ แล้วคำแช่งพวกนั้นล่ะ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2016, 01:14:01 PM โดย ดอกบัว » บันทึกการเข้า
เกียรติคุณ
ผู้ปฏิบัติธรรม
*****

พลังความดี : 65


เพศ: ชาย
อายุ: 46
กระทู้: 958
สมาชิก ID: 841


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2016, 02:26:29 PM »

Permalink: คำสาปแช่งจากผู้ให้กำเนิด



- คำแช่งก็เพียงคำด่าจากความโกรธแค้นนั้นแหละไม่มีอะไรหรอก ไม่มีใครให้กรรมหรือแบกกรรมของใครได้หรอก เรามีกรรมเป็นของๆตน ให้ผล ติดตาม และอาศัย ดังนั้นมีแต่การกระทำอันเป็นอกุศลของเขานั้นแหละ ความเบียดเบียนคนอื่นนั้นแหละ ที่จะเป็นไฟเผาเขาเองไม่ใช่เพราะใครสาปแช่ง
- คนแช่งจิตเขาก็เศร้าหมอง เพราะมีแต่ความโกรธ เกลียด ชัง ไม่มีสติ ไม่มีจิตตั้งมั่นชอบเป็นอารมณ์อยู่ทุกๆขณะ

** ยกตัวอย่าง..เวลาเธอโกรธเกลียดใคร แล้วเธอพายาทแช่งคนนั้นๆ คนๆนั้นเขารู้สึกอะไรกับเธอไหมล่ะ แถมเขาก็ยังมีความสุขของเขา บางครั้งก็ยิ่งเจริญๆขึ้นกว่าเดิมอีก แต่กลับกลายเป็นเธอเองนั้นแหละที่ถูกคำแช่งนั้นกลับคืนทั้งๆที่เธอไปสาปแช่งให้เขาฉิบหายแท้ แต่ตนกลับมามีกายและใจที่หดหู่ เศร้าหมอง หน้าตาหมองคล้ำ คร่ำเคร่ง เครียด เดือดดานเอง นั่นเพราะเราถูกไฟกิเลส โทสัคคิ ไฟคือ โทสะ เผาเราให้หมองไหม้อยู่ทุกขณะๆ จิตมันตรึกหน่วงนึกได้แต่ความเคียดแค้นเกลียดชัง ไม่มีที่ว่างให้จิตผ่อนคลายสบายเย็นใจ นี่ผลของกรรม คือมโนกรรมทำที่ใจ ความเกลียดชัง พยาบาทสำเร็จที่ใจ ไม่มีศีลเพราะจิตคิดแต่เบียดเบียนผุ้อื่น พระท่านจึงว่า ศีล ทาน หากเรามีไปอยู่ที่ใดก็เย็นใจเป้นที่สบายไปหมด เพราะไม่คิดเบียดเบียนใคร มีใจเอื้อเฟื้อ จึงไม่เร่าร้อนถูกไฟโทสะแผดเผา



** หากถามว่า หากคำแช่งไม่มีจริงทำไมเราแผ่เมตตาให้สัตว์ได้ ให้วิญญาณได้ เรื่องแผ่เมตตามันเป็นกิริยาอาการในการอธิษฐานด้วยจิตปราศจากอกุศล ไม่อคติลำเอียงเลือกที่มีรักมักที่ชัง เห็นเสมอกัน เสมอตน จิตเข้าสู่สมาธิอธิษฐานแผ่เอาบุญบารมีของเราที่มี แผ่ไปให้เผู้อื่นด้วยจิตที่ตั้งมั่นมีกำลังสมาธิ กำลังฌาณ

** หากถามว่าผู้ที่วาจาสิทธิ์ ทำไมแช่งคนแล้วเป็นอย่างนั้น ผู้มีวาจาสิทธินี้ ท่านทำสัจจะอธิษฐานสะสมมานับไม่ถ้วนเป็นอสงไขย เต็มด้วย ศีล สัมมาวาจา ทาน ภาวนา เข้าสู่สมาธิ ฌาณ แล้วอธิษฐานออกมา หรือมีอาการที่ทรงฌาณอยู่แล้วพูดออกมา แม้ปากท่านพูดว่ามันจะฉิบหายเอานะ ใจท่านไม่ได้หมายให้เราฉิบหายหรอก แต่ท่านพูดเพราะคิดสบถหรือทักออกมาอย่างนั้น แต่ด้วยสัจจะวาจาบารมีของท่านที่สะสมมาทำให้มันเป็นสัจจะอธิษฐานเกิดเป็นจริงขึ้น



- ส่วนกรรมที่คุณได้รับที่มีอยู่ ก็คือการ เจตนากระทำทางใจ วาจา กาย ที่ทำอนันตริยะกรรมออกมาในกาลก่อนหรือปัจจุบัน หรือวิบากกรรมที่เคยทำสะสมในชาติก่อนให้คุณพบเจอเป็นไป

   ** เช่น..คุณชอบฆ่าสัตว์ มีใจคิดร้ายผู้อื่น ไม่มีศีลในชาติก่อน คุณก็เกิดมาขี้โรค ร่างกายไม่สมส่วนไม่สมประกอบ พิการ หรือครบ 32 ประการแต่ไม่เป็นที่เจริญตาเจริญใจต่อใคร อายุสั้น มาในชาตินี้หากทำอย่างนี้คุณก็มีหน้าตาที่ดูเหมือนปีศาจ หมองคล้ำ ไม่น่าสนทนาด้วย ไม่น่าคบหา, หากคุณไม่เคยแบ่งปันไปในชาติก่อนชาตินี้ก็ไม่มีเพื่อนไม่มีญาติพี่น้อง, หากไม่เคยกตัญญูต่อพ่อแม่เกิดมาก็ถูกทอดทิ้งกำพร้าบ้าง อยู่อย่างลำบาก ไม่มีพ่อแม่ดูแลรักษาเหมือนคนอื่นเขา หากทำในชาตินี้ก็เป็นที่เกลียดชังไม่มีคนคบหา ลำบากยากแค้น ทำคุณใครไม่ขึ้น ทำอะไรก็ฉิบหายไม่เจริญเพราะพ่อแม่ที่ให้กำเนิดตนแท้ๆยังทิ้งได้, หากไม่มีทาน คือ ไม่รู้จักสละให้ ไม่รู้จักแบ่งปันในชาตินี้ก็ไม่มีคนให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือ ไม่มีเพื่อนฝูงบริวาร ไม่มีคนคบค้าสมาคมด้วย ไม่มีคนจริงใจด้วย กรรมนั้นแหละที่ส่งผลให้คุณได้รับผลไม่ดีเข้ามาในชีวิต, หากคุณไม่เคยภาวนาทำสติ สัมปะชัญญะ สมาธิ  ปัญญา ในชาติก่อน ชาตินี้ก็เป็นคนโง่ ไม่มีไหวพริบพลิกแพลง แก้ปัญไม่ได้ เชื่อคนง่าย หลงง่าย ไม่มีความยั้งคิด ยั้งทำ ไม่รู้ตัว หากในปัจจุบันจิตใจก็เศร้าหมองปล่อยวางไม่เป็น วางใจไว้ไม่ให้ทุกข์หยั่งเอาไม่ได้ ไม่มีความยั้งคิดยั้งทำ คิดกุศลไม่เป็น สมองที่แต่คิด ถูกสมมติความคิดครอบงำปิดกั้นปัญญา.. ดังนี้แล้วคุณทำ กาย วาจา ใจ ของตนให้เป็นกุศลแล้วหรือยัง



- ยายคุณก็มีพระคุณมากเป็นมารดาผู้เลี้ยงดูคุณให้เติบใหญ่ พ่อและแม่คุณก็มีพระคุณมากเพราะให้กายเนื้อนี้แก่คุณให้ดวงจิตคุณเดินทางมาอาศัยเกิดเป็นคนมีชีวิตขึ้นมาได้ บอกโลกนี้ให้แก่คุณ หากท่านไม่รักคุณคงเอาคุณไปทิ้งที่ไหนสักแห่งหรือฆ่าคุณตายหรือทำแท้งไม่ให้คุณเกิดมาไปนานแล้ว (บางครั้งท่านอาจจะส่งเงินให้ยายคุณประจำแต่พอเงินหมดก็จึงมาขอยืมก็ได้) ดังนั้นไม่ควรทำสิ่งไม่ดีต่อท่านทั้ง 2 หากท่านทำผิดเราชี้ทางให้ท่านเห็น บาป บุญ คุณ โทษ มันมีค่ากว่า

   ** เหมือนเช่นว่า ท่านเป็นแม่คุณ ท่านบอกให้คุณกตัญญูต่อท่าน คุณก็บอกไปจะทำให้ดีที่สุดตามสติกำลังที่มี และ ขอให้แม่กตัญญูต่อยายด้วย เหมือนที่แม่บอกให้หนูทำอยู่นี้ ต่างคนต่างทำมันก็ดีไม่มีประมาณเลยล่ะ ถ้าแกไม่ยอมรับแล้วด่า ก็บอกท่านว่านี่แน่ะเพียงหนูบอกกล่าวอย่างนี้ให้แม่ทำกุศลเป็นตัวอย่างที่ดีให้หนูแม่ยังทำไม่ได้เลย แล้วหนูจะเอาตัวอย่างที่ไหนมายึดมั่นแล้วทำความกตัญญูตามล่ะ ดังนี้แล้วแม่ทำเป็นตัวอย่างขอหนูเถอะนะคะ
(ให้พูดกล่าวด้วยจิตที่ปารถนาดีต่อท่าน เพราะท่านเป็นผู้ที่ประสบทุกข์อย่างมากอยู่ ไม่พออยู่พอกิน อด ยาก ลำบาก จึงมาขอที่พึ่ง เราผู้เป็นลูกที่ท่านให้กายนี้มา ควรที่จะเคารพเอื้อเฟื้อต่อท่าน ช่วยคนยากลำบากคนอื่นไม่ว่าจะเป็นขอทาน สัตว์ ยังช่วยได้เอื้อเฟื้อได้ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักเขา ไม่ได้ให้กำเนิด ไม่มีคุณต่อเราด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่ที่ให้ร่างกายนี้เรามา บอกโลกนี้ให้แก่เรา เราจะเคารพเอื้อเฟื้อไม่ได้เชียวหรือ หากว่าท่านทำตัวไม่เหมาะสมกับแม่ เราก็ทำตัวไม่เหมาะสมกับลูกเช่นกัน เพราะอคติต่อแม่ ความเมตตาจะไม่มีอคติลำเอียงเพราะรัก เพราะชัง เพราะกลัว เพราะไม่รู้ความจริง)**



ดูเอาครับทำแบบไหน ผมมีความรู้สึกเหมือนเอากระทู้คนอื่นมาโพสท์ด้วยป่าวนี่ หากเจอจริงๆก็ปล่อยวาง ตั้งมั่นใน ศีล ทาน ภาวนาไว้ ผมเองถูกแม่แช่งอยู่ประจำก็คิดแค่ว่า ท่านแช่งแล้วเป็นสุขกายสบายใจก็ทำไป ผมไม่จับอกุศล ไม่หอบเอาอกุศลตามวาจาแม่ แต่ผมจะตั้งมั่นในกุศล สำเร็จที่ใจ วาจา กายในกุศลทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ให้ท่านให้รู้ธรรม เห็นธรรม มีศีล ทาน ภาวนาตามสำเก็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนแทน




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 29, 2016, 08:15:42 PM โดย เกียรติคุณ » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ เมษายน 16, 2024, 11:03:40 AM