เมษายน 19, 2024, 05:24:20 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รักษาจิต....รักษาอย่างไร  (อ่าน 4550 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 11:49:43 AM »

Permalink: รักษาจิต....รักษาอย่างไร
รักษาจิต....รักษาอย่างไร
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

การประคองบาตรที่มี น้ำมันเต็ม
แม้ไม่ตั้งสติระมัดระวังให้เต็มที่
ย่อมมีโอกาสที่น้ำมันจะหกออกนอกบาตร
ทำความสกปรกเลอะเทอะให้เป็นอันมากฉันใด

การไม่รักษาจิตให้ดี กิเลสย่อมทำความเสียหายให้อย่างยิ่ง ฉันนั้น

ท่านจึงสอนให้รักษาจิตเหมือนคนประคองบาตรที่เต็มไปด้วยน้ำมัน
นึกถึงความจริงเวลามีน้ำมันหกเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเนื้อตัวเสื้อผ้าโดยเฉพาะ
ในขณะที่เนื้อตัวควรสะอาดเรียบร้อย
ที่ไม่ควรให้ความสกปรกจนดูไม่ได้ปรากฏแก่สายตาผู้คนทั้งหลาย
จะรู้สึกอึดอัดอับอายเพียงใด

การมีกิเลสล้นออกนอกจิตใจให้ปรากฏแก่ผู้คนทั่วไป
ยิ่งน่าอับอายกว่ามากมายนัก

การรักษาจิต
คือการตามดูให้รู้ว่าความคิดที่เกิดขึ้นเป็นความคิดที่ดีหรือที่ร้ายอย่างไร
เมื่อรู้แล้วให้หยุดความคิดที่ร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด
อย่าหาข้อแก้ตัวให้ความคิดเช่นนั้นเป็นอันขาด
เพราะจะมีโทษสถานเดียว ไม่มีคุณเลยแม้แต่น้อย

ความคิดนั้นสำคัญนัก สำคัญจริงๆ สำคัญยิ่งกว่าอะไรอื่นทั้งหมด

เพราะความคิดเป็นสภาพที่เกิดกับใจ
จะเข้าใจแบบง่ายๆ ว่า ความคิดคือใจ
ก็น่าจะเป็นการเข้าใจง่ายๆ แบบคนทั่วไป
เมื่อความคิดก็คือใจ ความคิดจึงเป็นใหญ่เป็นประธาน
ทุกสิ่งสำเร็จด้วยความคิด

เช่นเดียวกับที่พระพุทธศาสนาสุภาษิตแสดงไว้ว่า

ใจเป็นใหญ่ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ

ความคิดมีทั้งคุณมีทั้งโทษ แก่ผู้คิดเองก่อนแก่ผู้อื่น

ความรักความสามัคคีปรองดองเหมือนน้องพี่ในหมู่คณะหนึ่งหมู่คณะใด
ก็อาจเกิดได้เพราะความคิดของผู้อยู่ร่วมหมู่คณะนั้น
ที่เต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อกันและกัน
คิดให้อภัย กันเมื่อเกิดความผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น
ไม่ยกความผิดพลาดจะโดยบังเอิญ
หรือโดยตั้งใจของผู้ใดก็ตามมาคิดซ้ำเติมไป ต่างๆ นานา

แต่คิดทุกอย่างที่จะอภัยให้แก่ความผิดพลาดนั้น ให้ใจไม่เพ่งโทษกัน

เช่นนี้กล่าวว่าความคิดไม่เป็นโทษ
ความคิดเป็นคุณ จะให้ความสบายใจ แก่ผู้คิดนั่นเองก่อนผู้อื่น

ผู้ปรารถนาความสบายใจ
จึงพยายามคิดไปทุกแง่ทุกมุมที่จะให้เกิดความสบายใจสมปรารถนา


(ที่มา : แสงส่องใจ ปีใหม่ ๒๕๓๙
พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก)
 
 จากธรรมจักร
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ มกราคม 25, 2024, 10:44:26 AM