ถอดหน้ากากหัวใจ

ถอดหน้ากากหัวใจ

เรื่อง : ฐิตินาถ ณ พัทลุง thelifecompass@yahoo.comอีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปเพื่ออ่านมันได้

ถึงคุณเข็มทิศชีวิต
ดิฉันฝึกหัดรู้ทันใจตัวเอง ตามที่คุณแนะนำในหนังสือ"เข็มทิศชีวิต" อิมเมจ และกรุงเทพธุรกิจ ชอบคำถามในอิมเมจมาก เพราะมันตรงกับเรื่องของเราอยู่บ่อยๆ

เวลาที่คุณชี้ให้ดูว่า พอมีเรื่องแบบนี้ใจมันจะไปทำยังไง จะรู้สึกว่าเห็นตามได้ง่ายขึ้น ไม่งั้นจะรู้ไม่ค่อยทัน

ล่าสุดดิฉันเพิ่งเห็นใจตัวเองอย่างหนึ่ง แล้วรู้สึกตกใจมาก ว่าเราจะเลวขนาดนั้นได้อย่างไร

คือดิฉันมีคุณน้าที่เคารพรักสนิทกันมากเหมือนเพื่อน เพราะอายุใกล้ๆ กัน คุณน้าเป็นคนเก่ง ทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ คุณน้ารักดิฉันมากที่สุดในโลก ช่วยเหลือดูแลดิฉันทุกอย่าง ยิ่งกว่าแม่ของดิฉันเอง

ช่วงที่ผ่านมามีคนชมคุณน้าบ่อยๆ เปรียบเทียบยกย่องว่า งานที่คุณน้าทำดีกว่าของดิฉัน ดิฉันก็เถียงว่ามันดีกว่าตรงไหน แล้วมีโอกาสได้เห็นใจตัวเอง ว่าในหางเสียงที่พูดไป ลึกๆ แล้วมีความอิจฉาคุณน้าอยู่

มันเกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง ดิฉันไม่อยากเชื่อเลยว่า เราจะเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไร

สวัสดีค่ะ

ดีใจด้วย ที่คุณมีความก้าวหน้าในการรู้ทันใจตัวเอง คุณลองคิดดูสิคะว่า ถ้าคุณเห็นไม่ทันความอิจฉาที่ซ่อนตัวอยู่ มันฝังอยู่ข้างใน แล้วค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่าง เป็นความคิด จนล้นออกมาเป็นการกระทำ เป็นคำพูด ที่ทำลายคุณน้า ทำลายมิตรภาพ ทำลายตัวคุณเอง มันจะน่ากลัวขนาดไหน

ในใจของเราทุกคนมีกิเลสที่น่ากลัว แฝงอยู่มากมายนับไม่ถ้วน เพราะใจของเราไหลไปทำงานทุก 1-2 วินาที แต่เราไม่เคยรู้เท่าทัน ใจก็แอบไปเก็บขยะสะสมอะไรไม่ดีเอาไว้มากมาย

ไม่ต้องกลัวที่จะเห็นสิ่งไม่ดีในใจตัวเอง วางใจให้สบาย ดูมันเหมือนดูคนอื่น เหมือนเห็นงูพิษมันเลื้อยมาเลื้อยไป ครอบงำเราไม่ได้ ถ้าเมื่อไหร่สติเราอ่อนตัวลง อารมณ์ ความคิด มันครอบงำเรา ก็เหมือนเราไปคว้างูพิษขึ้นมา มันก็ฉกกัดเราทันที

ปล่อยใจให้ถูกกิเลสครอบงำทีไร ได้ผลเป็นความเผ็ดร้อน ใจก็จะเข็ดหลาบมากขึ้น ใจมันต้องเรียนรู้ด้วยตัวของมันเอง

มีผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นลูกครึ่งหน้าตาสวยงาม แต่เธอหิวความรักตลอดเวลา แค่เพียงใครสักคนที่ผ่านเข้ามา บางครั้งเขากำลังจะแต่งงาน บางคนเมียกำลังท้อง แม้แต่ทั้งลูกและเมียของผู้ชายเป็นคนที่เธอรู้จักดี

วันหนึ่งเธอพบผู้ชายที่ยังโสด เธอโทรหาเขาทุกวัน พูดคุยกับคนอื่นถึงเขาไม่เว้นแม้แต่หมอนวดในสปา จินตนาการถึงเขาอย่างมีความสุข ไม่กี่วันเธอพบว่า เขาไม่ได้สนใจเธอ เพราะเขามีคนรักแล้ว ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอเอง

เธอทำทุกอย่างที่จะทำลายชีวิตของผู้ชายคนนั้น และเพื่อนของเธอ แต่คนที่ได้รับความทุกข์มากที่สุดคือตัวเธอเอง เธอพยายามหัวเราะอยู่ตลอดเวลา เพื่อลืมความทุกข์ ความเบื่อบ้าน เบื่องาน เบื่อที่ต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เบื่อชีวิตที่ว่างเปล่า แล้วเอาใจที่หิวไปหาคนมาเติมให้เต็ม แต่ไม่มีใครอยากรักคนที่ขาด จิตใจพร่องอยู่ตลอดเวลา

การไม่รู้ทันใจตัวเอง ว่าในใจเรากำลังมีกิเลสอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลัง พาให้เราทำความชั่วได้มากมาย แล้วอาจหลงผิดคิดว่าเรากำลังทำความดีอยู่ด้วยซ้ำ

ถ้าเพียงเธอหันกลับมาดูใจตัวเอง หยุดแกล้งทำเป็นมีความสุข ทบทวนชีวิตของตัวเอง รู้ทันความเบื่องาน เบื่อชีวิตที่ว่างเปล่า แล้วเริ่มตั้งใจทำอะไรสักอย่าง อย่างเต็มความสามารถ แม้จะเป็นงานเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้รู้จักว่าเราชอบทำอะไร

พอมีความสุข มีความพอใจได้จากภายในตัวเอง ใจรู้สึกหิว...ขาดขึ้นมาก็รู้ทัน ใจจะค่อยๆ ตั้งมั่น มั่นคงขึ้น แสวงหาจากคนอื่นน้อยลง ไม่มีคนรักก็อยู่ได้ด้วยตนเอง หรือมีคนรักก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ให้มั่นคงยั่งยืนได้

ใจอยากพูดว่าร้าย ทำลายคนอื่นก็รู้ทัน หยุดเพ่งโทษคนอื่น หันมาตรวจสอบกิเลสเราเอง

เห็นกิเลสมากเข้า ความคาดหวังตั้งมาตรฐานจากคนอื่นก็น้อยลง ความโกรธแค้นไม่พอใจในคนอื่นก็ลดลง ความทุกข์ก็ลดลงตามลำดับ

คนเราทะเลาะกัน ก็เพราะผลประโยชน์ขัดกัน หรือความเห็นไม่ตรงกัน (ตัณหาและทิฐิ) หมั่นรู้ทันใจตัวเอง จนเห็นว่าทุกสัมผัส ทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก มีขึ้นชั่วคราวแล้วก็หายไป

แล้วจะมีอะไรให้ยึดถือ ต่อสู้ แย่งชิง

จาก หนังสือIMAGE เดือน มิถุนายน 2550
http://www.i-am-image.com/column/june2007/life.html

บทความจาก

http://jaotualek.blog.com

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ถอดหน้ากากหัวใจ (อ่าน 6794 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สนทนาธรรม ฟังธรรม อ่านธรรมะ บทความธรรมะ หลักธรรมคำสอน กฎแห่งกรรม dhamma