เมษายน 25, 2024, 10:52:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มันเป็นเช่นนั้นเอง...(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)  (อ่าน 5055 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2010, 03:53:14 PM »

Permalink: มันเป็นเช่นนั้นเอง...(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)
มันเป็นเช่นนั้นเอง...(หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) 
 

 
ชาวพุทธเราควรจะอยู่ด้วยความไม่เป็นทุกข์ในอะไร ๆ ที่เกิดขึ้น
ให้ทำใจให้เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าส่งใดจะเกิดขึ้น ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง
หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวิถีชีวิตของเรา เราก็จะไม่เป็นทุกข์ในเรื่องนั้น
เราจะใช้สติปัญญา เป็นเครื่องพิจารณา แล้วรู้จักปลง รู้จักวางในสิ่งนั้น ๆ
ไม่เข้าไปยึดถือด้วยความโง่ ด้วยความเขลา


เพราะถ้าเราเข้าไปยึดไปถือด้วยความโง่ความเขลา เราก็เป็นทุกข์
มันไม่ได้ประโยชน์อะไรแม้แต่น้อยที่นั่งเป็นทุกข์
แต่เป็นการลงโทษตัวเอง ลงโทษสุขภาพจิต สุขภาพกาย ทำให้จิตเสื่อม
ทำให้ร่างกายทรุดโทรม แก่เร็ว แล้วก็ตายเร็วด้วย
เพราะว่ามีความทุกข์มาก มีความกลุ้มใจมาก
ตัดทอนสุขภาพทั้งกายทั้งใจ ไม่เป็นเรื่องดีแม้แต่น้อย


ความทุกข์เป็นเหมือนน้ำร้อน เราคิดให้มันเป็นทุกข์
ก็เหมือนเอาน้ำร้อนมาราดตัว ตั้งแต่หัวถึงตีน
ถลอกปอกเปิกเป็นคนดำ ๆ ด่าง ๆ ไป
มันจะได้เรื่องอะไร เราไม่ควรจะคิดเช่นนั้น


เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเฉพาะหน้าให้พยายามคิดว่า ดีแล้ว ... พอแล้ว
หรือ "เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว" อย่างนี้ใจก็สบาย
เช่น คนทำมาค้าขาย เป็นนักธุรกิจ ทำกิจการต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา
บางคราวมันก็ได้กำไร บางคราวก็ขาดทุน บางคราวก็พอเสมอตัว
ถ้าหากว่าจิตใจของเราตื่นเต้นอยู่กับิสิ่งเหล่านั้น
พอได้ก็ดีใจ เกิดใจฟูขึ้น พอไม่ได้ก็แฟบลงไป
ขึ้นแล้วก็ลงขึ้นแล้วก็ลงอยู่อย่างนี้
เหมือนกับวานรมันเต้นอยู่ในกรงของมัน ดิ้นรนอยู่ แต่ออกไม่ได้
มันเป็นสุขที่ตรงไหนในการที่จิตของเราเป็นอย่างนั้น
ไม่เป็นความสุขอะไรเลย


เราจึงควรจะทำความพอใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้น
นึกว่า "ธรรมดา ... มันเป็นเช่นนั้นเอง"


คำนี้สำคัญมาก เรียกว่าเป็นคาถาวิเศษสำหรับเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน
คือคำว่า "ตถาตา" แปลว่า "มันเป็นเช่นนั้นเอง"


อะไร ๆ มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เราจะไปบังคับมันก็ไม่ได้ จะไปฝึนมันก็ไม่ได้
มันไม่ได้อยุ่ในอำนาจของเรา เราควรจะคิดว่า "เออ ! ธรรมดามันเป็นอย่างนี้"
เรานึกอย่างนี้ ก็พอปลง พอวาง สภาพจิตก็พอจะรู้เท่ารู้ทันในสิ่งนั้น ๆ
ความทุกข์ก็จะเบาไป คือ ไม่หนักอื้ง
เพราะเรารู้จักวาง รู้จักพักผ่อนทางใจ ใจก็สบาย...


ที่มา...ปาฏกถาธรรมของ ปัญญานันทะ ภิกขุ

 
 
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ พฤศจิกายน 29, 2023, 12:52:59 PM