เมษายน 20, 2024, 08:40:41 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สุข-ทุกข์..ในมือเรา  (อ่าน 5042 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 01:23:59 PM »

Permalink: สุข-ทุกข์..ในมือเรา
สุข-ทุกข์..ในมือเรา 
   
 
อย่าลืมว่าชีวิตจะสุข หรือทุกข์นั้น อยู่ที่เราเป็นสำคัญ
ไม่ใช่เพราะคนอื่น หรือเหตุอื่น...

ชีวิตไม่อาจเป็นไปดังหวังได้หมด
เปรียบไปก็ไม่ต่างกับเกมกีฬาที่ต้องมีแพ้ชนะ
ใครที่หวังชัยชนะไปเสียทุกครั้ง ก็เตรียมตัวทุกข์ใจไว้ได้เลย

พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่า..ให้เตรียมตัวเป็นผู้แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง

หามิได้ ใครที่คิดเช่นนั้นก็คงงอมืองอเท้าตั้งแต่แรก

...................

คนเราควรพากเพียรอย่างเต็มที่ แต่ใครเล่าที่จะกำหนดผลสำเร็จไปได้หมด
คนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ต้องรู้จักแพ้ให้เป็น ฉันใด ในยามที่ชีวิตตกต่ำ
บัณฑิตพึงรู้จักทำใจให้เป็นฉันนั้น

แต่คนเรามักทำใจไม่ได้ เพราะคอยหวนคะนึงถึงวันคืนอันชื่นบาน
สมัยยังมั่งมีศรีสุข หรือยังมีหน้ามีตา

แต่อดีตมีไว้เพื่อเป็นฐานหนุนส่งให้เกิดปัจจุบัน เพื่อก้าวไปสู่อนาคต

ใครที่เอาอดีตมาเหนี่ยวรั้งตนไว้ไม่ให้ไปข้างหน้า
ก็เท่ากับเป็นนักโทษในกรงขังของตัวเอง

...................

ชีวิตนั้นให้รางวัลก็แต่ผู้ที่อยู่กับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นของจริง

จริงอยู่ บ่อยครั้งที่ปัจจุบันมีแต่เรื่องระทมทุกข์ อดีตนั้นน่าพิสมัยมากกว่า
แต่ถ้าเราจะหวนไปหาอดีตบ้างก็ควรเป็นชั่วครู่ชั่วขณะ
เพื่อชุบชูจิตใจให้ชื่นบานจะได้มีกำลังมาฟันฝ่าชีวิตในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าชีวิตจะสุขหรือทุกข์นั้นอยู่ที่เราเป็นสำคัญ
ไม่ใช่เพราะคนอื่นหรือเหตุอื่น เช่นเดียวกับความจน และความรวยนั้น
อยู่ที่มุมมองของเรา

..................

คนไทยเป็นอันมากกำลังทุกข์ เพราะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองยากจนลง
ตราบใดที่ยังจมอยู่กับความคิดแบบนี้ก็ไม่มีวันคลายทุกข์ไปได้

แต่เราลืมไปแล้วหรือว่า
ชีวิตความเป็นอยู่ของเราตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าบางช่วงในอดีต

ลองมองไปรอบตัว จะพบว่าข้าวของในบ้านหลายชิ้น
เคยเป็นของสุดเอื้อม สมัยเรายังเด็ก หรือเป็นหนุ่มเป็นสาว
รถยนต์ แก้วแหวนเงินทอง วีดีโอ สเตอริโอ ซีดี ฯลฯ

มองในแง่นี้เราไม่ได้จนลงแต่รวยขึ้นต่างหาก ยิ่งถ้าเปรียบกับคนอีกมากมายตอนนี้
ไม่ว่าจะมองลงไปข้างล่างหรือมองขึ้นข้างบน เราก็ยังสบายกว่ามาก

............................

คนที่ถูกยึดรถไป สมควรแล้วที่จะคิดว่าตัวเองโชคดีกว่าคนที่กิจการล้มละลาย
ส่วนคนที่กิจการล้มละลาย ก็ยังโชคดีกว่านักธุรกิจพันล้านที่มีหนี้ท่วมหัว

แต่ถึงจะเป็นหนี้เป็นสินมากแค่ไหน
เราก็ยังมีสิทธิเลือกได้ว่าตัวเองจะทุกข์ หรือไม่ทุกข์
เพราะถึงที่สุด สุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทรัพย์ หรือหนี้สิน
หากอยู่ที่ใจของเรา

ถ้าเราคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวแย่แล้ว ๆ นรกก็เกิดขึ้นทันตาเห็น
เรามีสิทธิที่จะคิดว่าตัวเองไม่แย่
แต่สิทธินี้เราจะใช้หรือไม่อยู่ที่ใคร... ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง

กระนั้นก็ตาม นอกจากวิธีคิดหรือมุมมองแล้ว คุณภาพจิตของเราก็สำคัญ

ถ้าเราเป็นคนรู้จักสันโดษ ยินดีในสิ่งที่ตัวเองได้มาหรือมีอยู่
มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อ รู้จักแสวงหาความสงบในจิตใจ

วิกฤตของสังคมหรือวิกฤตการณ์อื่น ๆ ของชีวิตที่กำลังเผชิญอยู่
ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัย ที่จะฟันฝ่าไปได้

 
 
จาก ร่มไม้และเรือนใจ โดย พระไพศาล วิสาโล
ที่มา...บ้านใส่ใจ
 
 
 
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ พฤศจิกายน 24, 2020, 01:30:52 PM