เมษายน 20, 2024, 02:23:45 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมจากการตกปลา  (อ่าน 9222 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 09:52:01 PM »

Permalink: กรรมจากการตกปลา
กรรมจากการตกปลา 
 
เกิดแก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ...ชาติหน้าเกิดใหม่ ค่อยสร้างกันใหม่ เลือกได้ทั้งบุญและบาป...  “ บุญ ก็เหมือนเรือไม้ที่ลอยไปตามกระแสน้ำ บาปนั้นเหมือนเรือเหล็กถ้าล่มเมื่อไหร่แล้วเรืออะไรที่มันจะลอย ”


“เรือไม้ครับ” ข้าพเจ้าหนุนคำพูด



“แล้วเราจะเกาะเรือลำไหนเมื่อเรากำลังลอยท่ามกลางมหาสมุทรและก็มองไม่เห็นฝั่ง ”



“ เรือไม้ครับ ” ข้าพเจ้ายันคำเดิมเพราะฟังท่านเทศน์ให้คนอื่นฟังจนชินหู



“ ถ้างั้นเราต้องหมั่นสร้างบุญ ถ้าสร้างบาปก็เหมือนเกาะเรือเหล็กที่รั่ว ไม่ทันไรก็ต้องจมน้ำตาย....เกาะบุญไว้จะได้ถึงฝั่งสักวันหนึ่ง ”



หลวงตาสอนย้ำข้าพเจ้าอีกเมื่อสมัยที่พ่นำข้าพเจ้าไปฝากไว้ที่วัดอินทาราม แต่สมัยนั้นอายุยังน้อยเพิ่งเรียนชั้นมัธยม ๒ โรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงได้แต่ฟังไปเท่านั้นไม่ค่อยได้ปฏิบัติเท่าไหร่



พอหลวงตาเผลอ ข้าพเจ้าก็ไปหย่อนเบ็ดตกปลาหลังกฏิ จนหลวงตาจับได้เลยโดนหวดด้วยไม่เรียวไปหลายป้าบ ถึงเจ็บก็ไม่เข็ดเพราะมันสนุกเพลิดเพลินกับการทำบาป เลยแอบไปตกปลกที่อื่นกับเพื่อนให้ไกลหูไกลตาท่านหน่อย สนุกเพลิดเพลินไปอีกแบบ



พอโตขึ้นเลยกลายเป็นเซียนเบ็ดไปโดยปริยาย จากเบ็ดคันไม้ไผ่กลายเป็นเบ็ดฝรั่งชั้นดีราคาเป็นพัน...จากคูน้ำลำคลองกลายเป็นกลางทะเล เย่อกับปลาใหญ่ สร้างบาปใหญ่ขึ้นตามลำดับ ขอให้สนุกไว้ก่อนเถอะเรื่องบาปกรรมค่อยว่ากันทีหลัง ... ลืมคำสั่งสอนของหลวงตาสมัยเป็นเด็กเสียจนสิ้น....



วันหนึ่งข้าพเจ้าคิดถึงท่านจึงขับรถไปหาท่านที่วัดอินทาราม คุยถามสารทุกข์สุขดิบจนกระทั่งวกเข้าเรื่องสมัยเก่า ท่านจึงถามข้าพเจ้าว่า



“เดี๋ยวนี้ยังตกปลาอยู่หรือเปล่า ”



ข้าพเจ้าไม่กล้าโกหกท่านเลยตอบตามความเป็นจริง



“เป็นบางครั้งครับ เป็นการพักผ่อนจากการทำงานครับ ”



 “ทำบาปสร้างกรรมนะซิ แล้วมาอ้างว่าเป็นการพักผ่อน ”



“โธ..หลวงตา เพื่อนชวนไปเที่ยวสังสรรค์เลยต้องไปกัน มันเป็นเกมส์กีฬาน่ะครับ ”



“เราสนุก แต่เขาได้รับความเจ็บปวด ระวังเถอะเวรกรรมจะตามสนอง ”



ถึงท่านจะพูดอย่างไรข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อ เพราะข้าพเจ้าชอบ จึงยังคงสนุกกับการตกปลาที่พวกเราเรียกกันว่าเกมส์กีฬาอยู่เรื่อยมา โดยไม่เฉลียวใจเลยว่าเวรกรรมมันกำลังตามสนองอย่างช้า ๆ มาโดยตลอด กล่าวคือ



วันนั้นพวกข้าพเจ้าไปเที่ยวสวนสนบางแสนแล้วเช่าเรือไปตกปลากัน ปลาที่ได้ส่วนมากเป็นปลาเก๋าชนาดเล็กไม่เกินฝ่ามือ จึงนำมาผิงจิ้มน้ำจิ้มเป็นส่วนใหญ่แกล้มเหล้า แล้วกรรมเล็ก ๆ ก็ตามสนองเมื่อโดนก้างตำเหงือก ตอนนั้นข้าพจ้ากำลังเมาเลยไม่รู้สึกเจ็บ



พอรุ่งเช้าปรากฏว่าเหงือกบวมเป่ง ปวดฟันกินอะไรไรก็ไม่ได้ ซื้อยามากินก็ไม่หายทรมาน ปวดอยู่ ๒ วันจนทุเลาแต่ไม่นานก็ปวดฟันขึ้นมาอีก คราวนี้เลยต้องให้หมอถอนฟันออกถึงได้หายปวด



ข้าพเจ้าสร้างบาปกับปลามาแยะสร้างกรรมไว้มาก จึงต้องใช้กรรมด้วยการปวดฟันมาตลอด ตอนแรกไม่ได้คิดว่าเป็นเพราะกรรมตามสนอง จนกระทั่งไปหาหลวงตาอีกครั้ง แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้ท่านเลยถามว่า



“ ปวดฟันทรมานมากไหม ”



ข้าพเจ้าตอบว่า



“ทรมานยิ่งกว่าปวดอะไรทั้งหมดในตัวเลยครับ ”



 “นั้นแหละกรรมจากผลของการตกปลาล่ะ ”



ข้าพเจ้าเริ่มคิดถึงเรื่องผลกรรมขึ้นมาได้ตอนนี้เอง เมื่อท่านพูดต่อไปว่า



“เราตกปลา เบ็ดมันก็เกี่ยวปากเกี่ยวเหงือก ฟันมัน ปลามันมีชีวิต มีความรู้สึกว่าเจ็บ เราทำกับมันเอาไว้กรรมก็ย้อนกลับมาหาเรา



“ เหมือนกับการปลูกพืช เราปลูกอะไรย่อมได้ผลอย่างนั้น ...อีกอย่างเป็นเรื่องน่าสมเพช ที่เราไม่รู้ว่าวิญญาณที่กลับมาเกิดเป็นปลานั้นเป็นใคร อาจเป็นญาติผู้ใหญ่คนใดคนหนึ่งของเราก็ได้...เวร ”



ท่านกล่าวเกินไปจนข้าพเจ้าสดุ้งใจ เพราะข้าพเจ้ามันคนใกล้วัด ฟังเทศน์ฟังธรรม จนทะลุปรุโปร่ง



“แล้วทำยังไงกรรมจะทะลุเลาเบาบางได้บ้างล่ะครับหลวงตา ”



“ก็หมั่นทำบุญทำทาน ขออโหสิจากเจ้ากรรมนายเวร สร้างกุศลด้วยการให้อภัยทาน เลิกการทำร้ายสัตว์เดียรัจฉานที่ด้อยโอกาสกว่ามนุษย์  แต่กรรมนั้นลบล้างกันไม่ได้หรอก เพียงหยุดสะสม ชดใช้แค่ที่ทำมาก็พอเพียงแล้ว...แต่นั้นแหละนะ พระพุทธองค์ท่านตรัสว่าบัวมี ๔ เหล่า ไม่พ้นน้ำมีหรือจะพ้นการเป็นเหยื่อเต่า ปู ปลา ” แล้วท่านก็ส่ายหน้าช้า ๆ



ข้าพเจ้าเริ่มเข้าใจคำสอนอย่างถ่องแท้ และเริ่มทำตามอย่างที่ท่านสอน หักคันเบ็ดทิ้งเลิกตกปลาตั้งแต่นั้นมาเพราะถ้าเอาเบ็ดไปขายหรือให้คนอื่นต่อก็เหมือนหยิบยื่นทุกข์ให้กับปลาอีก แล้วหมั่นทำบุญใส่บาตรไปตลาดซื้อปลาตัวที่แข็งแรงมาปล่อยแทบทุกเช้า อาการปวดฟันก็ไม่ค่อยปวดเหมือนก่อน นาน ๆ จะปวดสักครั้ง ส่วนมากจะปวดหน้าหนาว อาการไม่รุนแรงเพียงแต่เจ็บจี๊ด ๆ นิดหน่อยเท่านั้น



นี่แหละเรื่องกรรมเล็ก ๆ ที่ข้าพเจ้าประสบอยู่ เป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ สัตว์โลกที่เกิดมาไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ย่อมมีชีวิตจิตใจมีความกลัวเจ็บ กลัวการตายด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราเป็นมนุษย์สุดประเสริฐจึงไม่สมควรที่จะไปเบียดเบียนสัตว์เล็กที่ด้อยโอกาสกว่า



สัตว์นั้น เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมอยู่แล้ว จงอย่าไปซ้ำเติมเขาอีกเลย เพราะกรรมต้องชดใช้ด้วยกรรมที่ก่อเท่านั้นถึงจะหมดหนี้กรรม ต่อให้มีเงินสักร้อยล้านพันล้านก็ไม่อาจใช้หนี้กรรมได้หรอก... เชื่อคนที่กำลังทยอยชดใช้กรรมอย่างข้าพเจ้าเถอะ....


คัดลอกมาจาก http://www.mindcyber.com
 
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ เมษายน 07, 2024, 12:47:18 PM