เมษายน 19, 2024, 09:48:51 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อบายมุข ๖  (อ่าน 18594 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: กันยายน 04, 2010, 12:23:47 PM »

Permalink: อบายมุข ๖
อบายมุข ๖


อบายมุข หมายถึง ทางแห่งความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ หรือเหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ เป็นสาเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศและเสียทรัพย์สิน หรืออาจเป็นต้นเหตุให้สูญเสียชีวิตได้

นักปราชญ์ปัจจุบันได้ประพันธ์เปรียบอบายมุขเป็นผี ( ผี ๖ ตัว) เอาไว้ว่า

ผีตัวที่หนึ่ง ชอบกินสุราเป็นอาจิณ ไม่ชอบกินข้าวปลาเป็นอาหาร
ผีตัวที่สอง ชอบเที่ยวยามวิกาล ไม่รักบ้านรักลูกรักเมียตน
ผีตัวที่สาม ชอบดูการละเล่น ไม่ละเว้นคลับบาร์ละครโขน
ผีตัวที่สี่ ชอบคบคนชั่วมั่วกับโจร หนีไม่พ้นอาญาตราแผ่นดิน
ผีตัวที่ห้า ชอบเล่นม้ากีฬาบัตร สารพัดถั่วโปไฮโลสิ้น
ผีตัวที่หก ชอบเกียจคร้านการทำกิน มีทั้งสิ้นหกผีอัปรีย์เอย

พระพุทธศาสนาสอนเรื่อง อบายมุข ๖ อย่าง ทั้งที่เป็นตัวเหตุและผลของเหตุไว้ดังนี้

๑. เสพสุราและของมึนเมา มีใจหมกมุ่นอยู่ในสิ่งเสพติดให้โทษ จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่าง คือ เสียทรัพย์, ก่อการทะเลาะวิวาท, เกิดโรค, ได้รับการติเตียน, ไม่รู้จักอายและปัญญาเสื่อม

๒. ชอบเที่ยวกลางคืน มีใจหมกมุ่นที่จะเที่ยว เที่ยวจนติด ต้องเที่ยวเป็นประจำ ไม่คำนึงว่าสถานที่นั้นมีอันตรายหรือไม่ จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่าง คือ ไม่รักษาตัวเอง, ไม่รักษาลูกเมีย, ไม่รักษาสมบัติ, เป็นที่ระแวงสงสัยของคนทั้งหลาย, มักถูกใส่ความและเป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน

๓. ชอบเที่ยวดูการละเล่น มีใจหมกมุ่นครุ่นคิดที่จะไปหาความสำราญกับการละเล่นต่าง ๆ ไม่ตั้งใจทำงาน ลักษณะของการชอบดูการละเล่น เช่น มีรำที่ไหนไปที่นั่น มีการขับร้องที่ไหนไปที่นั่น เป็นต้น

๔. ติดการ- มีใจหมกมุ่นที่จะเล่นการ- เล่นจนติด จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่าง คือ เมื่อชนะย่อมก่อเวร, เมื่อแพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสีย, ทรัพย์หมดไปอย่างเห็นได้ชัด, ไม่มีความเชื่อถือ, เป็นที่ดูหมิ่นของเพื่อน และไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย

๕. คบคนชั่วเป็นมิตร ไปมาหาสู่ ร่วมกินร่วมเที่ยวร่วมเล่นกับคนไม่ดี จนก่อให้เกิดโทษ ๖ อย่างตามชนิดของคนชั่วที่คบ คือ คบนักเลงเล่นการ-ถูกชักนำให้เป็นนักเลงการ- คบนักเลงผู้หญิงถูกชักนำให้เป็นนักเลงผู้หญิง คบนักเลงสุราหรือผู้ติดยาเสพติดถูกชักนำให้เป็นนักเลงสุราหรือเป็นผู้ติดยาเสพติดด้วย คบนักเลงของปลอมถูกชักนำให้เป็นนักเลงของปลอม คบนักเลงหลอกลวงถูกชักนำให้เป็นนักเลงหลอกลวง และคบนักเลงหัวไม้ถูกชักนำให้เป็นนักเลงหัวไม้

๖. เกียจคร้านการงาน ขี้เกียจทำงาน คิดหาอุบายมาอ้างเพื่อจะไม่ต้องทำงาน ทำให้ทรัพย์ใหม่ไม่เกิด ทรัพย์เก่าค่อย ๆ หมดสิ้นไป เหตุที่ยกมาอ้าง ๖ อย่าง คือ หนาวนัก, ร้อนนัก, เย็นแล้ว, ยังเช้าอยู่ , หิวนัก และอิ่มนัก แล้วไม่ทำการงาน

ขอบคุณเว็บที่นี่ดอทคอม




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ มีนาคม 01, 2024, 03:47:21 PM