บุญมาก ชายวัยกลางคน ณ บ้านชายเนิน อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมน้ำแม่น้ำวังในจังหวัดภาคเหนือมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จนวันหนึ่งได้ยินเรื่องเล่าขาน เกี่ยวกับพระธุดงค์ผู้เคร่งครัดที่ผ่านมายังหมู่บ้านแห่งนี้ จึงไปกราบท่านและได้นำอาหารไปถวาย และรู้สึกเลื่อมใสในตัวหลวงพ่อนามว่า"พระธรรมงาม"ยิ่งนัก
แน่นอนว่าบุญมากก็เหมือนคนไทยอีกมากมายที่เชื่อเรื่องโชคลาง ของขลัง และเรื่องโชคลาภ จึงถามหลวงพ่อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ซึ่งดูแล้วท่านมีความเข้าใจในความปรารถนาของบุญมากเป็นอย่างดี จึงให้คาถาบูชาพระสีวลี พระอรหันต์แห่งโชคลาภ พร้อมด้วยคาถาหลวงพ่อธรรมงาม และแนะนำให้บุญมากสวดด้วยเสียงอันดังและไพเราะอย่างละ ๘ จบ โดยตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา แล้วจะโชคดี?
นับจากนั้นมาบุญมากก็ตั้งอกตั้งใจสวดคาถาด้วยความเลื่อมใส และเชื่อว่าหลวงพ่อต้องช่วยให้เขาสมหวังเป็นแน่แท้ และก็เป็นดังที่เขาคิด เพราะบุญมากรู้สึกว่าตัวเองทำมาค้าขึ้น และถูกหวยสองตัวบ้าง สามตัวบ้างเป็นประจำ..
แต่แล้ว...วันหนึ่งเกิดน้ำป่าไหลหลาก โคลนถล่ม มีน้ำท่วมใหญ่ บุญมากยังมีความเชื่อมั่นว่าตัวเขาต้องไม่เป็นอะไรแน่ เพราะหลวงพ่อต้องช่วยเขาให้แคล้วคลาดในภัยพิบัติครั้งนี้เป็นแน่แท้ สิ่งที่เขาทำเป็นประจำคือสวดคาถาที่หลวงพ่อบอกด้วยเสียงอันดังและไพเราะอย่างที่เคยสวด พอมีรถที่ทางการส่งมาตะเวนช่วยเหลือพร้อมอพยพชาวบ้านออกไปอยู่ที่พักชั่วคราวที่ทางการจัดให้ แต่บุญมากตอบปฏิเสธไม่ยอมไปด้วย...
จนน้ำท่วมบ้านชั้นล่างไปแล้ว ตัวบุญมากเองต้องย้ายไปอยู่ชั้นสอง ทางการก็ยังคงส่งเรือมาตระเวนรับชาวบ้านและบุญมากอีก แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธไป และยังคงสวดคาถาที่หลวงพ่อให้ไว้ด้วยเสียงที่ดังยิ่งขึ้นและไพเราะมากกว่าครั้งก่อน ๆ และเฝ้ารอให้หลวงพ่อมาช่วย...
ไม่กี่วันต่อมา ระดับน้ำสูงขึ้นจนท่วมบ้านชั้นสอง ตัวเขาเองต้องย้ายขึ้นไปอยู่บนหลังคา และแล้วทางการก็ส่งเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์มารับอีก เขาก็ตอบปฏิเสธอีก เหมือนที่ผ่าน ๆ มา และยังคงคิดว่าเดี๋ยวหลวงพ่อต้องมาช่วยเขาแน่ ๆ ...สุดท้ายระดับน้ำสูงขึ้นจนเกินกว่าที่จะมีสิ่งมีชีวิตใด ๆ รอดพ้นไปได้ รวมทั้งบุญมากก็ต้องจมน้ำและเสียชีวิตในท้ายที่สุด...
ครั้นเมื่อตายไปแล้ว วิญญาณของบุญมากก็มาปรากฎตัวให้หลวงพ่อธรรมงามเห็น พร้อมกับต่อว่าต่อขานหลวงพ่อว่า "เหตุใดหลวงพ่อจึงไม่ช่วยผมเลย?"
หลวงพ่อธรรมงามซึ่งนั่งกรรมฐานอยู่จึงตอบอย่างสงบว่า "ทำไมเราจะไม่ช่วยเจ้ากันเล่า?"
ก็ถ้าช่วยจริง ผมก็คงไม่ตายอย่างนี้หรอก หลวงพ่อ? บุญมากกล่าว
ลองคิดดูให้ดี ๆ ซิ! ก็ในเมื่อหลวงพ่อส่งรถไปรับเจ้าก่อน ตามด้วยเรือ และครั้งสุดท้ายเป็นเครื่องบิน เจ้าก็ยังดื้อดึงไม่ยอมไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย แล้วจะให้หลวงพ่อช่วยเจ้าอย่างไรอีก?"
อ้าว... นั่นคือเรือและเครื่องบินที่หลวงพ่อส่งไปกระนั้นหรือ? พุทโธ่! ผมนี่ช่างโง่ยิ่งนัก ไม่น่าเลย ....วิญญาณบุญมากคร่ำครวญอย่างน่าเวทนายิ่งนัก
หลวงพ่อจึงเทศนาให้ฟังและสอนว่า คนเรานั้น "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ดีที่สุด ดังที่พุทธศาสนากล่าวไว้ว่า "อัตตาหิ อัตตโนนาโถ" นั่นเอง...
ที่มา
http://www.dhamma-ngam.com/new/index.php?option=com_content&view=article&id=156%3A2010-08-29-08-00-16&catid=56%3A2010-08-29-07-32-08&Itemid=133