ประวิต
|
|
« เมื่อ: มกราคม 24, 2013, 09:04:41 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ต้องใช้กาลเวลาเป็นบทบอกเล่า..บอกตัวเราเอง..และเล่าสู่กันฟัง..เพราะเวลาเปลี่ยน..อารมณ์มันก็เปลี่ยน...กว่าวันข้างหน้าจะมาถึง กว่าอารมณ์ที่แท้จริงจะก่อเกิดจากประสพการณ์ชีวิตที่แท้จริง....อารมณ์ใหม่และอารมณ์เก่า....ก็ยังวนเวียนหลอนหลอกเราอยู่ดี.. ...........ฉนั้นต้องใจเย็นๆ...นะครับพี่น้อง.....ใคร่ครวญให้ดีๆ ใคร่ครวญไปเรื่อยๆ....และกระทำไป....
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 25, 2013, 07:01:06 PM โดย ประวิต »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 26, 2013, 09:21:09 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
อารมณ์ ที่วนเวียน มันไม่ต่างจากจินตนาการดีๆ ของคนที่มีจินตนาการที่มีอารมณ์ เป็นอารมณ์ของจินตนาการ หรือมโนนึก-แม้ไม่รู้-ว่าเราหลงในทิฎฐิ-เพียงแค่ทิฎฐิเดียว---ผู้รู้ที่แตกฉานในความรู้--ที่มันครอบคลุมทิฎฐิร้อยแปด--หรือทิฎฐิ62ประการ--สงสารในตะบะพตของเขาเหล่านั้น-(มันน่าขำสำหรับกระผม ที่มองเห็นการกระทำ และการแสดงออกในมุมมองของทิฎฐิแ่ห่งตน ของคนที่มีทิฎฐิ ทิฎฐิของคนที่นับถือศาสนาพุทธอย่างนั้น อย่างที่เขาได้แสดงออกกัน มันช่างหน้าสงสาร ผู้ที่เป็นศาสดา ที่ทำความเพียรและสั่งสมบารมีในการบำเพ็ญพต เพื่อประกาศศาสนา เยี่ยงโพธิสัตว์ ที่คิดที่ดำริ ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงสุดท้ายแห่งการทำประโยชน์)
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 29, 2013, 09:01:51 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงสุดท้ายแห่งการทำประโยชน์--ผู้ที่ทำประโยชน์--ที่คิดเยี่ยงโพธิสัตว์--นั้นคือหลักเมตา--และความการุณาปราณี--ผู้ที่เดินทางๆนี้ ต้องเข้าใจใหลักธรรมเสียก่อน--ว่าแม้น้ำ84000สายนั้น--ที่ไหลลงสู่ทะเลฉันใดในที่สุด--หลักธรรมก็ฉันนั้น--นำพามวลมนุษย์ให้หมดทุกข์ได้ในที่สุด เท่าที่เขารู้ว่าเขามีทุกข์และเป็นทุกข์ และพยายามที่จะแสวงหาทางที่พ้นทุกข์--แม้แม่น้ำแต่ละสายมีความคดเคี้ยวไม่เหมือนกัน--แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน สำหรับผู้เดินทางและแสวงหาทางหรืิอผู้ที่กำลังปฎิบัติในทางๆนี้อยู่--อย่าวิจารณ์ให้มากในทางๆนี้--อย่าแสดงในทิฎฐิแห่งตนให้มาก--ผู้ที่แสดงมากนั้นยังไม่เข้าใจในแนวทางที่แท้จริง--ของแม้น้ำ--ได้แต่พากันวิจารณ์--และแสดงความหลงแห่งตน--จนพาผู้อื่นหลงทาง--หลงในทางๆที่ควรเดิน--เพราะทิฎฐิแห่งตน--------------ยิ่งในสายทางๆนี้ของวันเวลานี้---บางกลุ่มถึงกลับเพี้ยนหนัก--ระดมพลเพี้ยนพากันทำในทางๆที่มันเพี้ยนมากขึ้น----ไม่ข้าใจเอาเสียเลย---บอกอะไรก็ไม่ฟังดื้อดึงว่าทางแห่งตนทิฎฐิแห่งตนนั้นถูกต้อง---จะสอนเบาๆเอาบุญนะครับ---ค่าเครื่องบิบนั้นไม่แพงหรอกท่าน---พอเครื่องบิน--มันบินขึ้นสูงๆลองมองลงข่างล่างบ้างซิ---แม่น้ำแต่ละสายนั้นมันคดเคี้ยวเหมือนกันซะที่ไหน---บางสายมันต้องมุดลอดใต้ภูเขาหรือถ้ำ--ยาวเป็นกิโลกว่าจะโผล่ออกมา--แล้วยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะใหลลงสู่ทะเล---มาถึงปากทะเลแล้วยังต้อมาสู้กับแรงโน้มถ่วงของทะเลอีก--ไหนจะน้ำเก่าไหนจะน้ำใหม่--ไหนจะอาศัยเวลากว่าจะผสมผสานเป็นน้ำเดียวกันได้--ลองคิดดูบ้างเถอะท่านสหมองฝ่อ--บ้าอยู่ได้ กับจินตนาการแห่งทิฎฐิของตน--(วันใดท่านไม่รู้อะไรเลย...วันนั้นท่านจะเข้าใจในทะเล).....สัมมาทิฎฐิ-นิพพาน...
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2013, 09:08:19 PM โดย ประวิต »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2013, 08:07:51 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
สูงสุดคืนสู่สามัญ เป็นบทความที่เป็นสัจจะหนึ่งโดยความรู้จริงที่เกิดจากการใคร่ครวญ เป็นอารมณ์หนึ่งเช่นเดียวกัน อารมณ์ที่เป็นอารมณ์ ที่คนยังไม่ถึงของความแยบคายพอในการพิจารณา ( ไม่ซึ่งจนน้ำตาไหล ) พอที่จะเรียกเป็นอารมณ์ได้ เพราะสิ่งนั้นเรายังเรียกว่า ( วิตก วิจารณ์อยู่ ) มันเป็นอารมณ์หยาบอยู่ นะครับท่าน...........สัมมาทิฎฐิ...
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2013, 09:12:50 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ความคิด-ความรู้-สังขาร-อารมณ์-สิ่งเหล่านี้คือ-มิฐฉาทิฎฐิและสัมาทิฎฐิ-สองสิ่งนี้มีเหมือนกันและเป็นสิ่งเดียวกัน-จะแตกต่างกันก็เพียงอารมณ์-ที่เสวยในความรู้-หรือความคิด-หรือสังขาร-ที่ปรุงแต่งในขณะนั้น-อารมณ์ที่เสวยในขณะจิตปรุงแต่งจะแตกต่างกันออกไป--คิดหรือปรุงอย่างมีตัวตนแบบบ้าคลั่ง-เขาเรี๊ยกว่าพวกคนชั้นต่ำ-ที่คิดและปรุงแบบบ้าตามกิเลส-ตัณหา-อุปาทานแห่งตน--คิดอย่างมีความรู้-ที่ร่ำเรียนมา-และได้คิดใคร่ครวญดีแล้ว-แต่ก็ยังบ้ากับอารมณ์ของความคิดอยู่--พวกนี้คนชั้นกลาง--คิดในความรู้ที่ร่ำเรียนมาโดยแยบคาย-หรือใคร่ครวญดีแล้ว-ทราบซึ้งแล้ว-จนมีสติ-บอกสอนตนเองได้ดี และคอยเตือนตนเองอยู่เนืองๆ-ให้ทรงอารมณ์ ในความรู้ ความคิดแห่งตนได้--แต่ยังก้าวไม่ข้ามพ้นความมี หรือความเป็นได้--พวกนี้คือคนชั้นสูง--อะไรๆๆจะมี จะอยู่ หรือจะไป ในวันนี้เพลานี้--จะถูกหรือผิด--ดีหรือชั่ว--หรืออะไรก็ตาม--เขารู้อย่างมีสติและนิ่งเฉยได้บ้างตามสมควรแห่งครรลอง--เขาคืออริยะบุคลที่กำลังเดินทาง..............สัมมาทิฎฐิ........
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2013, 10:33:20 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
อารมณ์ที่พรั่งพรูออกมา จากความคิด ความกลั่นกลองของจิตสำนึกที่ขาดการยับยั้ง ไหลมาเทมาตามสภาพของอารมณ์ในขณะที่เราพูด ไม่ว่าจะเป็นด้วยกาละเทสะใดที่พยายามที่จะมาพูด ที่พยายามที่จะแสดงออก ด้วยวาจาต่างๆนาๆ มันเป็นอารมณ์หยาบทั้งสิ้น ..เป็นนิวรณ์...แม้ในหลักแห่งธรรมก็ไม่เว้น ............สัมมาทิฎฐิ..นิพพาน...
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2013, 10:56:58 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 09, 2013, 09:37:32 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
คนทุกคนย่อมีอารมณ์ตามครรลองของชีวิต จะอารมณ์แบบใดชนิดใด มันก็คืออารมณ์ ความอดทน อดกลั้น แม้ครั้งเดียวที่เราทำ จะรู้ธรรมมะ หรือไม่รู้ธรรมมะ มันคือการปฎิบ้ติธรรมชั้นเลิศ ลองคิดดูท่านผู้ธรรมมะดีทั้งหลาย.. ..........สัมมาทิฎฐิและนิพพาน..
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2013, 08:53:05 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ปลงด้วยความรู้สึกที่พิจารณาดีแล้ว...หรือปลงด้วยใจ...อันไหนดีกว่ากัน...ถาม...ตอบ...ปลงด้วยใจดีกว่า...เพราะเป็นความรู้สึกที่รับรู้จากการพิจารณาอันแยบคาย..........ความรู้ทั้งปวงก็ยังเป็นแค่ทิฐิหนึ่ง.....ไม่สู้..ปลงได้ด้วยใจ...และรู้อย่างอุเบกขาเลย....รู้หมื่น..กับรู้หนึ่ง....สัมมาทิฐิและนิพพาน
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2013, 09:50:37 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
เขียนได้ดี
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
วารินทร์
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2013, 06:18:28 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ดีจัง ขอบคุณน่ะค่ะ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 09:59:33 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ขึ้นชื่อว่าอารมณ์ ไม่ว่ามันจะเป็นประเภทใดๆในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ในทางโลกหรือทางธรรมก็ตาม ล้วนแล้วเราต้องระวังมันครับ เพราะมันยังซ่อนทิฎฐิของเราอยู่ มันพร้อมจะหลอกหลอนให้เราหลงทางได้เพียงแค่เสี้ยววินาทีครับ......สัมมาทิฎฐิ และ นิพพาน................
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รันตา
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2013, 03:30:24 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
ชอบเลยแบบนี้
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 22, 2013, 08:09:30 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
เขียนเมื่อวันพระที่ผ่านมา....จึงมาตามครรลอง .....................................เห็นการแสดงออกในอารมณ์ของคนทั้งหลาย ในยุคปัจจุบันนี้แล้วเราเองก็รู้สึกเหนื่อย ทิฎฐิหรือก็มากมายคณานับ ยิ่งทิฎฐิมาก อารมณ์ก็มาก เราจะบอกเขาอย่างไรว่า ความเป็นจริงนั้นมันไม่มีอะไรเลย ซักสิ่งเดียวในโลกนี้ ที่เราจะจับต้องมันได้จริงๆ เราหลอกหลอนให้เรา เราออกวิ่งไขว่ขว้า ไปตามอารมรมณ์ของจินตนาการของเรา ตามจิตสำนึกและความเชื่ออย่างนั้นของเรา แล้วเราจะขว้าอะไรได้เล่าดั่งปรารถนาละพี่น้อง คนแบกนุ่นฝ่าสายฝนมีแต่จะหนักไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่ต่างจากคนจำอวดที่มีความคิดเห็นอันเป็นจำนวนมาก ย่อมวิ่งวนเวียน เที่ยวแบกนุ่นที่ชุ่มน้ำ แล้วบอกเพื่อนพ้อน้องพี่ง ฉันไม่หนักๆๆๆตลอดไปตามหนทางแห่งอารมณ์ของเขา ถ้าเรารู้ว่าเราแบกนุ่นที่ชุ่มน้ำมันก็คงดี ใช่หรือดเปล่าครับท่านผู้เจริญ...สัมมาทิฎฐิและนิพพา
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 22, 2013, 08:11:13 PM โดย ประวิต »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2013, 10:06:22 PM » |
|
Permalink: อารมณ์
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตาม อันนี้ถ้าจะเป็นจริง เวลาที่มนุษย์นั้นมีอารมณ์ ไม่ว่าทางใดๆ ตัวเองคือผู้ที่ถูกต้องที่สุด นี่แหละคือมิจฉาสติ สิ่งที่คิดออกมาก็เป็นอารมณ์ของกู โดยที่กูไม่สนเหตุผลใดๆ ท่านทั้งหลายว่าจริงมัย ถ้าจริง ( เราต้องเตือนตนให้เลิก กระทำเยี่ยงนี้ นี่และคือการประฎิบัติธรรมชั้นเลิศ ) ไม่ต้องรู้อะไรมาก....สัมาทิฎฐิ และ นิพพาน
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|